เลือกตั้ง’66: พท. ลั่นกวาดเก้าอี้ ส.ส.เชียงใหม่ “เศรษฐา” มั่นใจได้เสียงพลังเงียบ

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า มีความมั่นใจในฐานเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นโฮมทาวน์ของพรรค โดยมีความคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.ยกทั้งจังหวัด และมั่นใจว่าประชาชนจะให้ฉันทามติกับพรรคที่ตัวเองชอบ ส่วนเรื่องความวุ่นวาย และความไม่แน่นอน หรือความไม่เป็นธรรมทั้งหลาย เมื่อเข้ามาสู่สนามการเมืองแล้ว ก็ต้องมั่นใจในระบบประชาธิปไตย และการทำงานขององค์กรอิสระ ความระแวง ความหวาดกลัว แน่นอนว่าต้องมีบ้าง วันนี้ใกล้จะถึงการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่าระบบที่เราอยู่ จะให้ความเป็นธรรม

ส่วนที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พยายามหาเสียงด้วยการปลุกพลังเงียบนั้น ไม่ได้หมายความว่าพลังเงียบจะเลือก รทสช. พลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจก็มี เหตุผลที่เขาเงียบ ก็เพราะเขายังไม่ตัดสินใจ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของทุกพรรคการเมืองที่จะดึงคะแนนเสียงออกมาเป็นของตัวเอง

ส่วนการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 12 พ.ค.66 นายเศรษฐา ขอให้ทุกคนติดตาม พรรคมีความหวังว่าจะโน้มน้าวคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ให้ตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทยได้ เรามั่นใจว่าเราเป็นพรรคใหญ่ เป็นสถาบันการเมืองที่ยึดโยงประชาชนกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และมั่นใจว่าทีมงานมีความพร้อม และเชื่อว่าการปราศรัยจะได้รับการติดตามจากประชาชน

สำหรับการปราศรัยเมื่อวานที่ว่าครอบครัวได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้จริงๆ แล้ว ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง แต่ถูกเชิญตัวไป และตนก็ปฏิบัติตามทุกอย่าง มีการลิดรอนสิทธิของคนไทยคนหนึ่ง และตนเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นกัน ตนเข้าใจ แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องการข่มขู่คุกคาม เพราะไม่ยอมรับการรัฐประหารและเผด็จการ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนต้องเทใจให้ฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้รับชัยชนะ

ส่วนกรณีที่พรรคเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน แต่ไม่บอกว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันการชี้เป้าและการเตะตัดขาใช้อุบัติเหตุทางการเมือง เพราะเป็นความหวาดระแวง เนื่องจากเคยโดนมาแล้วหลายหน ตรงนี้ก็เป็นกลยุทธ์ของพรรคเหมือนกัน ถือว่าต้องมีความระมัดระวังในการเดินไปข้างหน้า แต่ยืนยันว่าทั้ง 3 คนพร้อม ใครคนหนึ่งได้เป็น อีก 2 คนก็พร้อมทำงานคู่

นายเศรษฐา ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อ เพราะยังไม่ได้ดูข้อเท็จจริง แต่เป็นกำลังใจให้ ทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม และเป็นห่วงพรรคการเมืองบางพรรคที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top