ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ (10 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังจากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำสภาคองเกรส ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,531.33 จุด ลดลง 30.48 จุด หรือ -0.09%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,137.64 จุด เพิ่มขึ้น 18.47 จุด หรือ +0.45% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,306.44 จุด เพิ่มขึ้น 126.89 จุด หรือ +1.04%
ปธน.ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ หลังเสร็จสิ้นการเจรจาที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร (9 พ.ค.) โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะกลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.
ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า สหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.หากสภาคองเกรสไม่ลงมติขยายเพดานหนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบหลังจากระหว่างวันร่วงลงไปเกือบ 200 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0% และชะลอตัวจากระดับ 5.0% ในเดือนมี.ค.
อเล็กซานดรา วิลสัน-เอลิซอนโด นักวิเคราะห์จากบริษัท Goldman Sachs Asset Management กล่าวว่า ดัชนี CPI ที่ระดับต่ำกว่า 5% บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง และเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 86.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 13.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดีดตัวขึ้นหลังดัชนี CPI ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยหุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 1.04% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 1.7% หุ้นอินวิเดีย บวก 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1%
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้นกว่า 4% และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq หลังจากอัลฟาเบทประกาศใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มเติมในผลิตภัณฑ์เสิร์ชเอนจินของบริษัท เพื่อแข่งขันกับเทคโนโลยี AI ของไมโครซอฟท์
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคยังคงปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร โดยหุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป ลดลง 0.5% หุ้นซิติเซนส์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ร่วงลง 2.5% หุ้นพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ดิ่งลง 1.5%
หุ้น Airbnb ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ระดับโลก ร่วงลง 10.92% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/2566 ของบริษัท หลังจาก Airbnb คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 2.35-2.45 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.42 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 66)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก