นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้เติบโต 35% แตะระดับ 20,000 ล้านบาท และมุ่งสู่เป้าหมาย 50,000 ล้านบาทภายในปี 69 จากปี 65 มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 14,897 ล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญในการอนุมัติสินเชื่ออย่างรัดกุมเพื่อควบคุม NPL ของสินเชื่อใหม่ให้อยู่ในระดับต่ำ หรือวางเป้าไม่เกิน 5% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ในปีนี้บริษัทวางเป้ายอดปล่อยใหม่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (C4C) ภายใต้แบรนด์รถทำเงินราว 7,700 ล้านบาท เติบโต 32.76% จากปีก่อน หรือ 1,900 ล้านบาท และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนของลูกค้ารายย่อยของสินเชื่อ C4C จาก 37% ให้เพิ่มเป็น 60% ภายใน 3 ปี เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนสูงขึ้น และการนำระบบการอนุมัติสินเชื่อที่ใช้เทคโนโลยีมาพิจารณามากขึ้น โดยได้วางแผนในการลงทุนในการพัฒนาระบบสินเชื่อใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในปีนี้
ส่วนการปล่อยสินเชื่อสวัสดิการพนักงานปีนี้มีเป้าสินเชื่อใหม่ 400 ล้านบาท เติบโต 100% จากปีก่อน หรือ 200 ล้านบาท ปัจจุบันมีการ MOU 64 บริษัท คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มอีก 100 บริษัท โดยบริษัทตั้งเป้าพอร์ตลูกหนี้เติบโตแตะ 1,000 ล้านบาทในปี 69, Hire purchase-home/commercial appliances หรือสินเชื่อเช่าซื้อ บ้าน เครื่องใช้เพื่อการพาณิชย์ คาดจะปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ราว 1,600 ล้านบาท และมุ่งเน้นปรับเงื่อนไขสินเชื่อให้รัดกุมมากขึ้น รวมถึงปล่อยสินเชื่อให้กับพันธมิตรอื่น นอกจาก SINGER ด้วย
นอกจากนี้จะร่วมมือกับห้างทองเยาวราช ในการทำสินเชื่อผ่อนทอง คาดเริ่มไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป วางเป้าปล่อยสินเชื่อ Click2Glod 100 ล้านบาท
“บริษัทตั้งเป้าขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของการประกอบธุรกิจ Non-Bank ภายในปี 69 จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 6 ในอุตสาหกรรม โดยมี Market Shere อยู่ที่ 3.6% โดยบริษัทมีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้มากขึ้น โดยวางเป้าเป็น One-stop Services ด้านไฟแนนซ์และลีสซิ่ง”
ส่วนยอดจัดเก็บหนี้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่ 6,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บริษัทได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับลูกค้าบริษัทที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการโควิดที่อาจได้รับผลกระทบภายหลังจากมาตรการสิ้นสุดลง รวมถึงด้านการให้สินเชื่อใหม่ มีการปรับเงื่อนไขและกระบวนการภายในเพื่อให้เกิดความรัดกุมในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น โดยปีนี้ คาดว่า NPL จะน้อยกว่า 5%
ทั้งนี้ ตั้งแต่ก.ค. 66 บริษัทจะเริ่มใช้ ระบบ Tracking system for Sale and Collector เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บเงิน และทำ E-KYC และ E-Contract
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ SGC ประกอบด้วย 1. สินเชื่อประเภทให้เช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (รถบรรทุก รถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์) ภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน” 2. สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliances) เครื่องใช้ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (Commercial Appliances) 3. สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (Debt Consolidation) และ 4. สินเชื่ออื่นๆ โดยจะมีแผนในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ เช่น การผ่อนเครื่องจักรทางการเกษตร และสินเชื่อบ้านและที่ดิน ภายในปี 66
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66)
Tags: SGC, หุ้นไทย, อโณทัย ศรีเตียเพ็ชร, เอสจี แคปปิตอล