การใช้จ่ายของผู้บริโภคในญี่ปุ่นลดลงเกินคาดในเดือนมี.ค.ในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ค่าจ้างที่แท้จริง (real wages) ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน อันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เปิดเผยในวันนี้ (9 พ.ค.) ยังบ่งชี้ให้เห็นถึง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลงและมีความวิตกเกี่ยวกับภาคการเงิน แม้มีการคาดการณ์กันว่า BOJ จะยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษก็ตาม
ข้อมูลระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ลดลง 1.9% ในเดือนมี.ค.จากปีก่อนหน้า สวนทางกับค่ากลางที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ.
การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนมี.ค.ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ซึ่งร่วงลง 2.3% ขณะที่ญี่ปุ่นยังคงพยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อปรับตามฤดูกาลและเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนั้น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในญี่ปุ่น ลดลง 0.8% ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% นอกจากนี้ ยังเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน หลังจากลดลง 2.4% ในเดือนก.พ.
สำหรับปีงบประมาณ 2565 ที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.นั้น การใช้จ่ายภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งชะลอลงจากการขยายตัว 2.1% ในปีงบประมาณ 2564
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 66)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น