พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงภายหลังประชุมร่วมกับคณะทำงานคลี่คลายคดีไซยาไนด์ของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม พบความเชื่อมโยงจากการเสียชีวิตของผู้เสียหาย 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย รวมเป็น 15 ราย ปัจจุบันออกหมายจับแล้ว 14 คดี ยังมีคดีสงสัยอีก 2-3 คดี
วันนี้ที่ประชุมลงมติให้โอนทั้ง 14 คดีให้กองบังคับการปราบปรามดำเนินการ โดยมีหัวหน้าคณะสืบสวน คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และคณะ ประกอบด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ โดย ผบ.ตร.สั่งให้เร่งรัดดำเนินการทุกวัน ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่แน่นหนาในการเอาผิดกับผู้ต้องหา
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ให้แนวทางกับพนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ หากพบการตายไม่ทราบสาเหตุ ทุกหน่วยต้องเข้ามาช่วย ซึ่งใน 14 คดีที่ดำเนินคดีแล้วตำรวจได้ย้อนกลับไปเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทำให้มีหลักฐานประกอบในสำนวนมากขึ้น อีกทั้งการค้นหาไซยาไนด์ได้ประสานกรมโรงงาน อย. พบแหล่งที่มาอยู่ระหว่างคัดแยกว่าส่วนไหนที่ส่งถึง “แอม”
“แม้ไม่มีพยานที่รู้เห็นตอนแอมหยอดยาไซยาไนด์ในอาหารหรือน้ำดื่มให้ผู้เสียหาย แต่คดีนี้ตำรวจมีประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แน่นหนาเอาผิดผู้ต้องหาได้ทุกคดีแน่นอน” ผบ.ตร.กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดีที่เกี่ยวข้อง เหลือเพียงคดีในส่วนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทองหล่อ ซึ่งวันจันทร์ที่ 8 พ.ค. ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับได้ เนื่องจากการสอบสวนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว สำหรับนายตำรวจยศ ส.ต.อ. ที่เสียชีวิตเมื่อปี 65 ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับแอมด้วยหรือไม่ เบื้องต้นแพทย์ยืนยันว่าป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่ทั้งหมดนี้ต้องมีการสืบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง
สำหรับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองผู้กำกับอ๊อฟ อดีตสามีแอม ตำรวจพบว่ามีการหย่าร้างทางนิตินัยแต่ทั้งสองยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ได้เลิกกันจริง แต่ที่ไปมีสามีใหม่ คือ นายแด้ นั้น จุดประสงค์ของแอมคือต้องการทรัพย์สิน เนื่องจากทราบมาว่าแด้มีทรัพย์สินจำนวนมาก อีกทั้งการสืบสวนของตำรวจเป็นการขยายพื้นที่ตั้งต้นที่จังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้คดีของนายแด้เชื่อว่ารองผู้กำกับฯ มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะหลังก่อเหตุแอมให้รองผู้กำกับฯ ไปเอารถของแด้ที่จังหวัดอุดรธานี จากนั้นทั้งสองไปตระเวนทวงเงินจากลูกหนี้ของนายแด้ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้อดีตสามีของแอมยังไม่มีการรับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุฆาตกรรม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายทั้ง 15 ราย แอมใช้สารพิษไซยาไนด์ทั้งหมดไม่ว่าในรูปแบบเป็นน้ำ อาหาร ยาเม็ดแคปซูล ปัญหาการเงินเป็นมูลเหตุจูงใจในการฆ่า โดยใช้วิธีการโอนเงิน ทั้งแบบหลอกรับจำนำรถยนต์ ขอกู้ยืม เพราะแอมล้มเหลวด้านการเงิน มีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก สอดคล้องกับข้อมูลจากการตรวจค้นที่บ้านพักพี่สาวแอมที่พบแคปซูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในแคปซูลมีการปนเปื้อนสารไซยาไนด์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 66)
Tags: ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์, สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์, สารพิษ, อาชญากรรม, แอม ไซยาไนด์, ไซยาไนด์