น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวกลางโรงพยาบาลภายหลังคลอดบุตรชายคนที่ 2 เพื่อประกาศความพร้อมนำลูกพรรคหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ขณะที่ยืนยันความชัดเจนว่าจะไม่รวมรัฐบาลกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลงประชารัฐ ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ทวิตอยากกลับบ้าน ยังไม่มีกำหนดแน่นอน แต่แค่ต้องการมาเลี้ยงหลาน ไม่ใช่กลับมาเป็นนายกฯ
น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายพร้อมขึ้นทุกเวทีดีเบต และลงพื้นที่ โดยเฉพาะในวันที่ 12 พงค.นี้จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคอย่างแน่นอน กลยุทธ์ของพรรคจะเดินหน้าย้ำเรื่องนโยบายของพรรคต่อไป เพื่อให้ประชาชนเห็นว่านโยบายต่างๆจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ พร้อมลุยเต็มที่ เพราะสิ่งที่ทำได้อย่างเดียว คือการนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งทุกคนในพรรครวมถึงแคนดิเดตทุกคนก็เดินหน้าเต็มที่ ส่วนใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งสามคนพร้อมหมด และตนเองพร้อมที่เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมั่นใจในพรรคที่จะนำไปสู่แลนสไลด์ได้
“อิ้งพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี…มั่นใจในแลนสไลด์ เลือกเพื่อเปลี่ยน”นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงกระแสความนิยมของนายพิธร ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ส่วนผลโพลล่าสุดออกมาว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นสูงขึ้นมาไล่บี้พรรคเพื่อไทยและกระแสนี้อาจทำให้เป้าหมายแลนด์สไลด์สะดุดนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ผลโพลจากที่ต่างๆ บางแหล่งเชื่อถือได้ บางแหล่งไม่น่าเชื่อถือ ประชาชนคงต้องใช้วิจารณ์พิจารณาจากนโยบายของพรรคที่นำเสนอออกมา เราต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนจริงๆ ต้องเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ ซึ่งทุกพรรคทำเต็มที่ พรรคเพื่อไทยก็ทำเต็มที่เหมือนกัน
“เราลำบากมา 8-9 ปีแล้ว เราจะไม่รอแล้ว เราต้องแลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนประเทศจริงๆ ไม่ต้องรออีก 4 ปีแล้วค่อยเปลี่ยน เลือกตั้งให้มีระบบ ให้มียุทธศาสตร์ เลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทยถล่มถลาย เพื่อจะเปลี่ยนเลย ไม่ใช่ไปรอเหมือนปี 62 ที่เราได้เสียงข้างมากแต่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เราลุ้นไม่ไหวแล้ว ไม่มีอะไรน่าลุ้นอีกแล้ว ต้องเปลี่ยนเลย ก็ต้องฝากประชาชนต้องทำแล้ว”น.ส.แพทองธาร กล่าว
สำหรับกรณีการตั้งข้อสังเกตถึงโอกาสการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมตรีคนที่ 2 ของพรรคเพื่อไทยเคยระบุว่าได้พูดคุยกับน.ส.แพทองธาร ว่าไม่จับมือกับทั้ง 2 พรรคถือเป็นมติพรรคใช่หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หากมติที่ว่าคือมติกรรมการบริหารพรรคนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุมกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนทั้งพรรคเห็นพร้อมเพรียงกัน ทุกคนในพรรคเพื่อไทยพูดตรงกันมาโดยตลอด
“ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเรื่องนี้ยังเป็นกระแส ยังปั่นกันอยู่ เป็นเพราะพรรคคู่แข่งหรือไม่ที่บอกว่าเราไม่ชัดเจน แต่ทุกคนในพรรคก็พูดชัดเจนว่า ไม่จับมือ ที่ยังพูดกันอยู่คิดว่าอาจเป็นหนึ่งในเทคนิคทางการเมือง”น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ร้องยุบพรรคเพื่อไทย เรื่องไลน์หลุดโอนเงินให้คนเสื้อแดงช่วยหาเสียง น.ส.แพทองธาร กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้านายศรีสุวรรณว่างก็เชิญ มองว่าเป็นเทคนิคในการหาเสียง ถ้ามีเวลาเหมือนนายศรีสุวรรณ ก็อาจจะฟ้องกลับ
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงการที่นายทักษิณ ซึ่งเป็นบิดาระบว่าอยากกลับบ้านว่า เมื่อคลอดบุตรชายคนที่ 2 ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ชื่อและความหมายมาจากความชอบ ซึ่งชื่อพฤจ์ธาษิณ ที่เป็น พฤจ์ คล้ายๆกับพจมาน และธาษิณ ก็สื่อถึง คุณตา จึงอยากให้มีทั้งสองชื่ออยู่ในชื่อลูก และมีความผูกพันธ์กับคนในบ้าน รู้สึกอบอุ่นดี
หลังจากคลอด ทุกคนในครอบครัวก็รู้สึกตื่นเต้น รวมถึงคุณตาก็ตื่นเต้นมากๆ และหวังอยากจะเห็นหน้าหลานหน้าห้องคลอด และได้มีการพูดคุยกันทุกวัน ซึ่งนายทักษิณพูดว่าอยากกลับบ้านในหลายๆโอกาส และครั้งนี้ก็เป็นโอกาสความหวังจากการได้หลานคนใหม่
“เขาอยากกลับ เป็นสิ่งที่มีความหวัง แน่นอนสิ่งที่เขาพูด effect ในเรื่องการเมืองก็ตาม แต่เรื่องครอบครัวไม่ผิดที่จะหวัง ในวันที่บ้านมีเรื่องดีๆ ได้คุยทุกวัน คุยเรื่องลูก แต่ไม่ได้คุยว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”น.ส.พทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การทวิตข้อความของนายทักษิณอยากกลับบ้านไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และไม่เกี่ยวกับหาเสียงอยู่ แม้จะเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ทุกคนเชื่อในตัวคุณพ่อ และในฐานะลูกตัดขาดไม่ได้ และยังมีความหวังต่อเนื่อง แต่ไม่ได้กำหนด เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ คุณพ่อพูดมาตลอดว่า อยากกลับมาเลี้ยงหลาน เขาไม่ได้อยากกลับมาเป็นนายกฯ”น.ส.แพทองธาร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 66)
Tags: พรรคเพื่อไทย, หาเสียง, อุ๊งอิ๊ง, เพื่อไทย, เลือกตั้ง, แพทองธาร ชินวัตร, แลนด์สไลด์