บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (Medeze) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 150,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรม บริการ (SERVICE) หมวดธุรกิจ ธุรกิจการแพทย์ (HELTH) โดยมี บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อใช้ในการลงทุนวิจัยและขยายธุรกิจเซลล์รากผม (Hair Cell) , เพื่อใช้ในการลงทุนติดตั้งระบบการทำจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Cell Banking) และ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
Medeze ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 12 ปี บริการครอบคลุมการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาว ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรชั้นนำในวงการเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ที่ทำงานด้วยเป็นจำนวนมาก และยังมีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำในประเทศ ไปจนถึงการมีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking) อาทิ ระบบการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ (AutoXpress) และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ (Quantum) เป็นต้น
กลุ่มบริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจบริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) ตั้งแต่ปี 53 นำโดยนพ.วีรพล เขมะรังสรรค์ รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ธุรกิจในปัจจุบันดำเนินการผ่านบริษัทย่อย 5 บริษัท ได้แก่ (1) บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด ให้บริการทดสอบศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) (2) บริษัท เมดีซ คอสเมซูติคอล จำกัด จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ตราสินค้า DAA และอาหารเสริม (3) บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด วิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (4) Medeze Treasury Pte. Ltd. อครองและบริหารตราสินค้าของกลุ่มบริษัท และ (5) Medeze Group Pte. Ltd. วิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์
ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 กลุ่มบริษัทมีถังไนโตรเจนเหลวทั้งหมด 20 ถัง และมีความสามารถสูงสุดในการสกัดเลือด 2,880 เคส/ปี และสกัดเนื้อเยื่อ 4,560 เคส/ปี นอกจากนี้ มีความสามารถในการทดสอบศักยภาพของ NK Cells อยู่ที่ 1,920 เคสต่อปี ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทมีพันธมิตรกับโรงพยาบาลในประเทศกว่า 168 แห่ง มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศจำนวนมาก และมีตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า อินโดนีเซีย และกัมพูชา
ณ วันที่ 27 ก.ค.65 โครงสร้างผู้ถือหุ้น มีกลุ่มครอบครัวเขมะรังสรรค์ คือ บริษัท เมดีซ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 45.09% หลัง IPO จะลดเหลือ 33.81% และ นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ถือหุ้น 32.02% จะลดเหลือ 24.01% ส่วนนายแพทย์จำรัส สกุลไพศาล 18.47% จะลดเหลือ 13.85% นายแพทย์รังสรรค์ พาลพ่าย 3.69% จะลดเหลือ 2.77%
ในปี 64 และปี 65 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 482.31 ล้านบาท และ 644.55 ล้านบาท ตามลำดับ หรือเติบโตขึ้น 19.07% และ 33.64% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากบริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และบริการตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) คิดเป็นสัดส่วน 67.73% และ 23.67% ของรายได้รวมในปี 64, 75.63% และ 15.66% ของรายได้รวมในปี 65 ตามลำดับ
ขณะที่กำไรสุทธิในปี 64 อยู่ที่ 112.06 ล้านบาท และ ปี 65 มีกำไรสุทธิ 147.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 23.15% และ 22.82% ตามลำดับ
ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 มีสินทรัพย์ 781.76 ล้านบาท หนี้สินรวม 352.07 ล้านบาท และ ส่วนผู้ถือหุ้น 429.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 66)
Tags: IPO, Medeze, หุ้นไทย, เมดีซ กรุ๊ป, ไฟลิ่ง