นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ทางเทคนิค หลังวานนี้ปรับตัวลงแรง จากหุ้น DELTA ฉุด ซึ่งน่าจะสะท้อนพื้นฐานไปแล้ว และน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Domestic play เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ หลังตัวเลข GDP สหรัฐออกมาต่ำคาด เป็นการคอนเฟิร์มแนวโน้มดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดพีคแล้ว ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด
นายภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวด์ทางเทคนิค หลังวานนี้ปรับตัวลงแรงจากหุ้น DELTA ฉุด ขณะที่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากหุ้น Domestic play เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 1.1% ในไตรมาส 1/66 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดการลงทุนในการสต็อกสินค้า ซึ่งบดบังตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นการคอนเฟิร์มแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดพีคแล้ว คาดจะส่งผลดีต่อต้นทุนของหุ้นดังกล่าวในอนาคตลดลง แนะนำซื้อ SAWAD
ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,826.16 จุด พุ่งขึ้น 524.29 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,135.35 จุด เพิ่มขึ้น 79.36 จุด หรือ +1.96% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,142.24 จุด พุ่งขึ้น 287.89 จุด หรือ + 2.43%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,705.91 จุด เพิ่มขึ้น 248.23 จุด หรือ +0.87%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,936.02 จุด เพิ่มขึ้น 95.74 จุด หรือ +0.48% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,283.12 จุด ลดลง 2.76 จุด หรือ -0.08%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 เม.ย.66) 1,531.23 จุด ลดลง 12.72 จุด (-0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 43,638.05ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 342.55 ลบ. เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.(27 เม.ย.66) เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 เม.ย.66) อยู่ที่ 2.67 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.13 ทรงตัว ขณะภูมิภาคแข็งค่า จับตา Flow สิ้นเดือน-ประชุม BOJ
- สนพ.ชี้แจงค่าไฟขึ้นลงตามราคา เชื้อเพลิง ไม่เกี่ยวกับการสำรองไฟฟ้า ระบุหากราคาก๊าซ ถูกลงกว่าสมมติฐานในงวด พ.ค.-ส.ค.จะลดค่าไฟงวดถัดไป เผยค่าไฟไทยปรับขึ้นน้อยกว่าหลายประเทศ ชี้หลัง พ.ค.ค่าไฟถูกลงแน่ จากปัจจัยอุณหภูมิลด กำลังผลิตก๊าซในอ่าวไทยที่ต้นทุนต่ำ มีกำลังผลิตเพิ่ม
- ตลาดรถยนต์โดยรวม มียอดขายไตรมาสแรกทะลุ 217,073 คัน เดือน มี.ค.ขายได้ 79,943 คัน ขณะที่โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดียอดจดทะเบียนรถไฟฟ้า (EV) ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เดือน มี.ค. สูงสุด 8,522 คัน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 3 รวม 3 เดือนแรกปีนี้ 20,400 คัน เป็นผลจากการสนับสนุนการใช้รถ EV อย่างจริงจังของรัฐบาล
- ม.หอการค้า เผยผลสำรวจแรงงานไทยมีภาระหนี้ครัวเรือนกว่า 2.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% สูงสุดในรอบ 14 ปี ฟันธงวันแรงงานปีนี้คึกคักเงินสะพัด 2 พันล้านบาท
- “คลัง” การันตีเศรษฐกิจไทย เดือน มี.ค.66 ยังแจ่ม ท่องเที่ยว-ภาคเกษตรโตต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติบุกไทยโต 953% ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยานต่อเนื่อง 10 เดือนติด และสูงที่สุดในรอบ 37 เดือน สะท้อนความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ ประชาชนคลายความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อ
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 72.75 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q23 เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จาก SSSG ที่เพิ่ม โดยเฉพาะสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยว แนวโน้ม 2Q23 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง
- BEM (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 11.20 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/66 ที่ 623.6 ลบ. (+86% YoY, +3.4% QoQ) จากปริมาณการจราจรที่สูงขึ้นแต่ชดเชยด้วยค่าไฟฟ้าและค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้น ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการปรับคำแนะนำใหม่ ได้แก่ การฟื้นตัวของค่าผ่านทางและผู้โดยสาร MRT ที่เร็วขึ้น และการเริ่มโครงการทางด่วนสองชั้นในปี 2566 เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันของ BEM สะท้อนถึงมูลค่าของธุรกิจหลัก แม้ว่าเราคาดว่า overhang ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะฉุดราคาหุ้นให้ไปถึงราคาเป้าหมายของเรา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย