เลือกตั้ง’66: ปชป. ชู 26 นโยบายยกระดับภาคเกษตร เพิ่มรายได้-GDP เกษตร ก้าวสู่ผู้นำอาหารโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงวาระประเทศไทย ครั้งที่ 4 “ปชป. กับนโยบายเกษตร”ว่า พรรคได้กำหนดเป้าหมายของนโยบายเกษตรทันสมัยภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก”และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ให้ประเทศไทยต้องเป็นมหาอำนาจอาหารโลก Top 10 เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 100% และ เพิ่ม GDP เกษตรเป็น 10%

พรรคประชาธิปัตย์ จึงกำหนด 26 นโยบายสำคัญ เพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรสู่การบรรลุเป้าหมาย โดยกำหนด 3 กลยุทธ์ คือ เปลี่ยนเกษตรยากจนเป็นเกษตรร่ำรวย เปลี่ยนเกษตรดั้งเดิมสู่เกษตรทันสมัยรายได้สูง และเปลี่ยนเมืองเกษตรเป็นเมืองอาหาร

นอกจากนี้ได้มีการวาง 5 ฐานรายได้ใหม่ ประกอบด้วย

1.สร้างฐานแปรรูปอุตเกษตรใหม่ ด้วยการเปลี่ยนเมืองเกษตรเป็นเมืองอาหาร ส่งเสริมการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร 18 กลุ่มจังหวัด และให้มีการเขตเศรษฐกิจเกษตรทุกจังหวัด

2.สร้างฐานรายได้ใหม่ ทั้งเกษตรอาหาร เกษตรพลังงาน เกษตรท่องเที่ยว เกษตรสุขภาพ

3.สร้างฐานตลาดใหม่ ยกระดับราคาสินค้าเกษตร ด้วยการสร้างตลาดออนไลน์ ตลาดประมูลออนไลน์และออฟไลน์ ขยายตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ สร้างแต้มต่อด้วย FTA และ Mini-FTA ข้อตกลงการค้าเสรี

4.สร้างฐานสินค้าใหม่ อาหารแห่งอนาคต เกษตรอินทรีย์ และอาหารฮาลาล สร้างแบรน์ชด์สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์

5.สร้างฐานแปลงเกษตรใหม่ ยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 10,000 แปลง เกษตรแม่นยำ 5 ล้านไร่

สำหรับ 26 นโยบายเกษตรกรทันสมัยสำคัญ ในการยกระดับภาคเกษตรสู่เป้าหมาย คือ

1.ต่อยอดโครงการประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด

2.ยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้าน (พืช สัตว์ ประมง)

3.ชาวนารับ 30,000 บาทต่อ 1 ครัวเรือน

4.ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เพื่อส่งเสริมเกษตรผู้เลี้ยงโคนมและสุขภาพเด็กนักเรียน

5.สนับสนุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น อย่างน้อย 2,800 กลุ่ม กลุ่มละ 100,000 บาทต่อปี

6.ธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ส่งเสริมสินเชื่อเงินออมชุมชน

7.ปลดล็อก พ.ร.ก.ประมงภายใต้กติกา IUU, โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบจบใน 90 วัน, จัดตั้งสภาการประมง และกองทุนประมง, พัฒนาศักยภาพประมงพื้นบ้านประมงพาณิชย์ ประมงนอกน่านน้ำและอุตสาหกรรมประมง

8.ออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้เกษตรกรในที่ดินของรัฐทุกประเภท กระจายการถือครองที่ดิน ปฏิรูปที่ดิน ธนาคารที่ดิน โฉนดที่ดิน

9.พัฒนาปศุสัตว์ครบวงจร ยกระดับกีฬา ประเพณีท้องถิ่นสู่มาตรฐานใหม่ เช่น วัวลาน วัวชน ตีไก่ ประกกดนก

10.ค่าตอบแทนอาสาสมัครเกษตร 1,000 บาทต่อเดือน

11.แก้หนี้ แก้จน ปรับลดปลดหนี้ พักหนี้ 4 ปี ปฏิรูปธกส. ปฏิรูประบบสินเชื่อ-เงินฝาก-ดอกเบี้ย พัฒนากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและกองทุนเกษตรอื่นๆ

12.จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหาร 18 กลุ่มจังหวัด เขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเกษตรทุกจังหวัด นิคมอุตสาหกรรมยาง นิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล

13.ยกระดับศูนย์เทคโนโลยีเกษตร นวัตกรรมและเครื่องจักรกล

14.พัฒนาพันธุ์พืช พันธุ์ประมง และพันธุ์ปศุสัตว์ เพื่อเพิ่มผลผลิตและตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน

15.ส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำ เกษตรออนไลน์ เกษตรยั่งยืนตำบล เกษตรอินทรีย์ เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง เกษตรคาร์บอนต่ำ เพิ่มรายได้ลดโลกร้อน

16.พัฒนาโลจิสติกส์เกษตร เชื่อมเกษตรไทยเชื่อมตลาดโลก

17.ประกันภัยพืชผล ประมงและปศุสัตว์

18.ส่งเสริมพลังงานทดแทนทุกรูปแบบในภาคการเกษตรเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานชีวมวลและพลังงานแก๊สชีวภาพ ฯลฯ

19.ส่งเสริมอาหารแห่งอนาคต เกษตรอินทรีย์และอาหารฮาลาล

20.การบริหารจัดการน้ำมิติใหม่ ชลประทานอัจฉริยะ ขยายเขตชลประทานเป็น 50 % พัฒนาแหล่งน้ำใหม่ ชลประทานตำบล ธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบส่งน้ำแบบใหม่ เพิ่มแก้มลิงและสระน้ำในพื้นที่เกษตรของเกษตรกร

21.ยกระดับการบริหารจัดการผลไม้และจัดตั้งมหานครผลไม้

22.ส่งเสริมสถาบันเกษตรกรซื้อปุ๋ยตรง เพิ่มศูนย์บริการดิน-ปุ๋ยชุมชนหมู่บ้านตำบล ปุ๋ยสั่งตัด เพิ่มการผลิต ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก 5 ล้านตัน

23.พัฒนาสหกรณ์ เพิ่มกองทุนพัฒนาสหกรณ์

24.ส่งเสริมสถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรรุ่นใหม่ แม่บ้านเกษตร สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี.เกษตร ยกระดับมาตรฐานวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเกษตร เพิ่มวิทยฐานะชำนาญเฉพาะทาง คุณวุฒิวิชาชีพเกษตรกรและการศึกษาการเกษตรมิติใหม่ พัฒนาวิทยาลัยประมง เดินเรือ เพาะเลี้ยง ปศุสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล

25.โลจิสติกส์เกษตรและระบบห่วงโซ่ความเย็น เชื่อมเกษตรไทย เชื่อมตลาดโลก

26.ปฎิรูปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นกระทรวงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโดยโครงการดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่น (Digital Transformation)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top