หุ้น “เฟิร์สต์ รีพับลิก” ทรุดหนักหลังคนแห่ถอนเงิน สร้างความตื่นตระหนกในสหรัฐ

หุ้นธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกของสหรัฐร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันอังคาร (25 เม.ย.) ขณะที่บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของสหรัฐและนักการเงินวอลล์สตรีทพยายามหาทางสร้างเสถียรภาพให้กับธนาคารที่กำลังตกที่นั่งลำบากแห่งนี้

ทั้งนี้ หุ้นธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิก ทรุดตัวลงกว่า 49% เมื่อวันอังคาร ปิดที่ราคา 8.10 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ปีนี้ลดลงไปแล้วกว่า 90% เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกเปิดเผยว่า ลูกค้าได้ถอนเงินฝากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงที่เกิดความปั่นป่วนเมื่อเดือนมี.ค.

ธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่า กำลังพิจารณาทางเลือกเชิงกลยุทธ์ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่แหล่งข่าวหลายรายระบุว่า ธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกกำลังเผชิญความยากลำบากในการหาวิธีแก้ปัญหาที่นำไปปฏิบัติได้ เช่น การขายกิจการทั้งหมด หรือขายกิจการบางส่วน

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกกำลังติดต่อประสานงานกับรัฐบาลสหรัฐ โดยขณะนี้รัฐบาลสหรัฐคอยเฝ้าระวังภาคธนาคารอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุการณ์ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ล้มเมื่อเดือนมี.ค.

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ทางเลือกอันดับแรก ๆ ในการแก้ปัญหาธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกได้แก่การให้ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเข้าช่วยเหลือธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิก หลังจากเพิ่งฝากเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิก หรืออีกทางหนึ่งคือให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เข้าควบคุมธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกและให้รัฐบาลรับประกันเงินฝากทั้งหมด ซึ่งเป็นวิธีที่เคยใช้แก้ปัญหา SVB

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จากทำเนียบขาว ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังสหรัฐได้หารือกับธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา เนื่องจากคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐวิตกกังวลว่า ธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกใกล้จะหมดเวลาในการเรียกความเชื่อมั่นผู้ฝากเงินและนักลงทุนแล้ว

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า รัฐบาลสหรัฐไม่กังวลว่าปัญหาของธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกจะแพร่กระจายไปยังธนาคารแห่งอื่น ๆ แม้หุ้นธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิกทรุดลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ แต่ดัชนีธนาคารระดับภูมิภาค KBW ลดลงไม่ถึง 4% ซึ่งบ่งชี้ว่าปัจจุบันนักลงทุนมีความผ่อนคลายมากกว่าช่วงที่ SVB ล้ม โดยเวลานั้นนักลงทุนได้แห่เทขายหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นวงกว้าง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top