ท่ามกลางกระแสการลงทุนในปัจจุบันที่มีเทรนด์การลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ นักลงทุนหลายคนเริ่มนำเทรนด์ “Asset Tokenization” หรือการนำสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไป Back Up (สำรอง) โทเคน เพื่อให้ประชาชนถือครองและมีสิทธิในความเป็นเจ้าของ ของสินทรัพย์ที่ Back Up ไว้ เพื่อเก็บเข้าพอร์ตการลงทุนกันมากขึ้น
“Asset Tokenization” เทรนด์การลงทุนนี้ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มักใช้กับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ สินค้าอุปโภคบริโภค (Commodity) โดยในประเทศไทยเองก็มีตัวอย่างของ Asset Tokenization ที่เรียกตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ว่า “Investment Token” เช่น Sirihub Token และ Destiny Token สินทรัพย์ลักษณะนี้มีจุดเด่นที่สภาพคล่องสามารถซื้อขายได้ 24 ชม. (Real-Time Settle) ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาทำการของตลาด
ข้อมูลเชิงสถิติของผลการลงทุนย้อนหลัง การนำ “Asset Tokenization” มาประกอบการลงทุน พบว่าส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แต่ไม่ใช่ “Asset Tokenization” ทุกตัวจะเป็นอย่างนั้น!!
วันนี้ “Wealth Me Please” จะพาทุกคนไปพูดคุยกับนายเอกราช ศรีศุภวิชากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัลและออนไลน์ บล.กรุงศรี ที่จะมาแชร์เคสของ “Asset Tokenization” ที่น่าสนใจเพื่อประกอบการลงทุนกับเทรนด์ใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 66)
Tags: Asset Tokenization, SCOOP, SET, WealthMePlease, การลงทุน, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, นักลงทุน, หุ้นไทย, โทเคน