ออสเตรเลียเผยแพร่รายงานการทบทวนด้านกลาโหม ที่ระบุว่า ออสเตรเลียจะเพิ่มความพยายามในการซื้อขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน
รายงานระบุว่า ออสเตรเลียไม่สามารถได้รับการปกป้องจากการแยกอยู่โดดเดี่ยวทางภูมิศาสตร์ใน “ยุคขีปนาวุธ” ได้อีกต่อไป
รัฐบาลจะใช้จ่ายประมาณ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.0 หมื่นล้านปอนด์) เพื่อดำเนินตามคำแนะนำของรายงาน
รายงานการทบทวนฉบับดังกล่าวเป็นการปฏิรูปด้านกลาโหมครั้งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
รายงานการทบทวนยุทธศาสตร์กลาโหม (DSR) มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค อันเนื่องมาจากจุดยืนของจีนต่อไต้หวัน ซึ่งจีนให้คำมั่นหลายครั้งว่าจะใช้กำลังยึดไต้หวันหากจำเป็น
นอกจากนี้ กองทัพเรือจีนยังประจำการอยู่ในทะเลจีนใต้อีกด้วย โดยอ้างว่าเป็นอาณาเขตทางทะเลของตน แม้จะขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปัจจุบัน การเสริมกำลังด้านกลาโหมของจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดและทะเยอทะยานที่สุดเมื่อเทียบกับทุกประเทศนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการสั่งสมกำลังทหารของจีนนั้นเกิดขึ้นโดยขาดความโปร่งใสและไม่มีการบอกกล่าวถึงเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของจีนแก่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 66)
Tags: กระทรวงกลาโหม, ขีปนาวุธ, จีน, ภัยคุกคาม, ออสเตรเลีย