นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ประชาชนได้แห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) อย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และมากเกินกว่าที่เฟดจะสามารถรับมือในฐานะหน่วยงานที่เข้ามาช่วยคุ้มครองเงินฝากของประชาชน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ทางการสหรัฐจำเป็นต้องเร่งกระบวนการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินให้รวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ นายวอลเลอร์กล่าวว่า “นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แห่ถอนเงินที่ SVB ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐต้องสั่งปิดกิจการ SVB ในช่วงกลางเดือนมี.ค.นั้น ภาวะปั่นป่วนในภาคธนาคารดูเหมือนจะผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง ผมมองว่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแล้ว เมื่อภาวะตื่นตระหนกสิ้นสุดลง ก็จะไม่มีความเสียหายด้านปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงต่อเศรษฐกิจหรือระบบธนาคาร”
ปัจจุบัน เฟดกำลังประเมินสถานการณ์ว่า เพราะเหตุใด SVB จึงล้มละลาย และกำลังพิจารณาว่าจำเป็นต้องใช้นโยบายใดในการแก้ไขเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เฟดประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB นอกจากนี้ เฟดยังร่วมมือกับกระทรวงการคลังสหรัฐในการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนให้กับประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า การล้มละลายของ SVB ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบธนาคารนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่เฟดต้องหันมาทบทวนอย่างถี่ถ้วน, โปร่งใส และเร่งด่วน โดยคณะกรรมการเฟดได้มอบหมายให้นายไมเคิล บาร์ รองประธานเฟดฝ่ายกิจการกำกับดูแล ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการทบทวนเรื่องดังกล่าว และจะมีการแถลงให้สาธารณชนรับทราบผลของการทบทวนในวันที่ 1 พ.ค.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 66)
Tags: SVB, คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์, ธนาคารกลางสหรัฐ, ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์, สหรัฐ, เงินกู้ฉุกเฉิน, เฟด