นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ ฟื้นตัวขึ้นหลังวานนี้ปรับตัวลงแรง ขานรับงบ BBL ออกมาดี ลดจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้น KBANK, SCB ลงได้ ขณะที่ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับยอดขายบ้านมือสองที่ชะลอตัวลง ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายทางแล้ว ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวอ่อนค่าลง เป็นบวกต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ ฟื้นตัวขึ้น หลังวานนี้ร่วงลงแรง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากผลประกอบการของธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่ออกมาดีมาก คาดว่านักวิเคราะห์น่าจะมีการปรับประมาณการราคาเป้าหมายขึ้นกันในระยะถัดไป ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะทำให้จิตวิทยาเชิงลบ ต่อหุ้นธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะ หุ้นธนาคารกสิรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลงแรง จากความกังวลว่าบมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) อาจผิดนัดชำระหนี้ เบาบางลงด้วย
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาด และยอดขายบ้านมือสองชะลอตัวลง ตอกย้ำวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นสหรัฐเป็นช่วงปลายทาง หนุนค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าระยะสั้น เป็นบวกต่อทิศทาง Flow ไหลเข้าตลาดเอเชีย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,786.62 จุด ลดลง 110.39 จุด หรือ -0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,129.79 จุด ลดลง 24.73 จุด หรือ -0.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,059.56 จุด ลดลง 97.67 จุด หรือ -0.80%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 28,590.55 จุด ลดลง 67.02 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,330.15 จุด ลดลง 66.82 จุด หรือ -0.32% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,364.00 จุด ลดลง 3.03 จุด หรือ -0.09%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 เม.ย.66) 1,565.10 จุด ลดลง 15.63 จุด (-0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 57,260.07บาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 767.22 ลบ. เมื่อวันที่ 20 เม.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(20 เม.ย.) ร่วงลง 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.36% ปิดที่ 77.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 เม.ย.) อยู่ที่ 2.35 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.34 แข็งค่าเล็กน้อย หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐกดดอลลาร์อ่อนค่า
- “ฉางอัน-GAC Aion” เตรียมยื่น ขอบีโอไอลงทุนผลิตอีวี 1.6 หมื่นล้าน “นฤตม์” ชี้ ค่ายรถจีนพาเหรดลงทุนไทย เผยอีก 3 บริษัท “Geely-JAC-JMC” เตรียมตัดสินใจขั้นสุดท้าย มั่นใจอีโคซิสเตมในไทย สนลงทุนกระบะ-รถบรรทุกไฟฟ้า หนุนไทยผลิตครบทุกเซ็กเมนต์ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่าประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโตดีในครึ่งปีหลังโดยเชื่อว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลใหม่ที่ออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศและสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ชัดเจนมากขึ้น คาดว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหนเข้ามาต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย 2 เรื่องนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 4.3% ในครึ่งปีแรก 2.9% และครึ่งปีหลัง 5.7%
- กรมการท่องเที่ยวได้เร่งแก้ปัญหาแรงงานภาคการท่องเที่ยวและบริการขาดแคลนหลังเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นฟูจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมุ่งสร้างมาตรการระยะสั้น กลาง และยาว ทั้งเพิ่มช่องทางจัดหางาน, พัฒนาทักษะการทำงาน, เพิ่มตำแหน่งงานหรือสัญชาติแรงงานต่างด้าว, รับนักศึกษาฝึกงานและให้ค่าตอบแทนการทำงาน รวมถึงการปรับปรุงหลักสูตรการสอนด้านท่องเที่ยวให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการ
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 184.90 บาท กำไรไตรมาส 1/66 ออกมาที่ 1 หมื่นล้านบาท +34% q-q, +42% y-y ดีกว่าคาด 11% จากกำไรจากการตีมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงิน รายได้ดอกเบี้ยโตแกร่งตามดอกเบี้ยขาขึ้นและ NIM ปรับตัวดีขึ้น สำรองมีการปรับขึ้นจากความ Conservative แต่ NPL Ratio ยังคุมได้ดีทรงตัวจากไตรมาส 4/65 Consensus คาดกำไรปี 66 ฟื้นตัวแกร่ง +17% y-y โดย BBL เป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมากสุด ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแรง และยังเทรด PBV เพียง 0.6 เท่า
- ให้แนวรับ 155-154, 150-148 บาท แนวต้าน 160-165 บาท
- AMATA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 25.70 บาท ประเมินภาพการดำเนินงานปกติในปี66 จะสดใสได้ต่อเนื่องจากการกลับมาเจรจากับลูกค้าต่างชาติได้อีกครั้งหลังการระบาดของ Covid-19 การตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดย เบื้องต้น AMATA* ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 66 ไว้ที่ 2,500 ไร่(+100%YoY) ซึ่งคาดยอดขายปี 66 จะมาจาก ที่ดินในนิคมฯ อมตะ ซิตี้ ระยอง 700-800 ไร่, นิคมอุตฯไทย-จีน (บริษัทร่วมทุนไทย-จีน) 500 ไร่, ที่ดินนิคมฯ ที่เวียดนาม 600-700 ไร่ และที่เหลือเป็นที่ดินใน อมตะ ซิตี้ ชลบุรี
- TASCO (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 21.5 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง และล่าสุดมีข่าวดีประสบผลสำเร็จจากการนำเข้าน้ำมันดิบจากโคลัมเบียซึ่งให้ Yield จากการผลิตยางมะตอยใกล้เคียงกับน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย