หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ อาจมีแรงเก็งกำไรงบ Q1/66-รอลุ้น GDP จีน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ยังไร้ปัจจัยใหม่ แต่อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรงบฯไตรมาส 1/66 ดีช่วยหนุน โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคป ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน รอติดตามรายงาน GDP ไตรมาสแรกของจีน ซึ่งมีผลต่อ Sentiment ตลาดหุ้นในภูมิภาค พร้อมให้แนวต้าน 1,610 จุด แนวรับ 1,590 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ยังคงไร้ปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา แต่อาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ออกมาดีช่วยหนุนได้บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน โดยวันนี้ติดตามการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 ของจีนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย

โดยให้แนวต้าน 1,610 จุด แนวรับ 1,590 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,987.18 จุด เพิ่มขึ้น 100.71 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 44,151.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.68 จุด หรือ +0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,157.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.26 จุด หรือ +0.28%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 28,567.54 จุด เพิ่มขึ้น 52.76 จุด หรือ +0.19% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,643.41 จุด ลดลง 139.04 จุด หรือ -0.67% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,379.23 จุด ลดลง 6.38 จุด หรือ -0.19%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 เม.ย.66) 1,600.41 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 46,726.22 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,370.44 ลบ. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(17 เม.ย.) ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 เม.ย.) อยู่ที่ 2.53 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.46 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า

– ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมผลักดันกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาอีกครั้งหลังเลือกตั้ง คาดมีเงินเข้าตลาดหุ้นเพิ่มปีละไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท

– เอกชนชี้เทรนด์ธุรกิจ “อีเวนต์” 1.5 หมื่นล้านคัมแบ็กเทียบเท่าก่อนวิกฤติโควิด อานิสงส์เลือกตั้งใหญ่ หนุน เงินสะพัด 20-30% เสริมแกร่งไลฟ์สไตล์อีเวนต์ คอนเสิร์ต แฟนมีทศิลปิน มิวสิค เฟสติวัล แห่จัดงานทั่วประเทศ

– กกต.ขีดเส้นพรรคการเมืองส่งนโยบายที่ต้องใช้เงินภายใน 18 เม.ย. ก่อนเผยแพร่บนเว็บไซต์ 21 เม.ย.นี้ “เพื่อไทย” ถกปมแหล่งที่มาของรายได้นโยบายแจก “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” จ้องขึ้นภาษี VAT ควบหั่นงบทุกกระทรวง หากไม่เพียงพออาจกู้เงินบางส่วน แต่ไม่แจง กกต.หวั่นโดนโจมตีส่งผลลบต่อคะแนนเสียง แบไต๋ยกเลิก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” อ้างโครงการซ้ำซ้อน งบสูงขึ้น “เต้น” โวประชาชนตื่นตัวอยากเข้าถึงนโยบาย “ศรีสุวรรณ” ไล่บี้ไม่หยุดร้อง สตง.สอบแจกเงินดิจิทัลเสี่ยงทำลายวินัยการเงินการคลัง

– สธ.กางแผนล้อมคอกโควิดพุ่งหลังสงกรานต์ พร้อมเปิดศูนย์ฉุกเฉินรับมือ ด้านกรมวิทย์ระบุเฝ้าระวังเข้มข้น ชี้ XBB.1.16 จ่อระบาดหลักช่วงต่อไปทั้งไทยและทั่วโลก ยันยังไม่พบหลบภูมิมากกว่าตัว อื่น ขณะที่ “อนุทิน” เผยยังไม่อยู่ในสถานการณ์เสี่ยง วอน ปชช.รับวัคซีนเข็มกระตุ้นโอมิครอน ชาวบ้านผวาหนักแรงงานต่างด้าวดับสังเวยสายพันธุ์ใหม่ โคราชน่าห่วงติดกันระนาวอีกระลอก

หุ้นเด่นวันนี้

– YONG (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 3.50 บาท Outlook กำไรไตรมาส 1/66 มีโอกาสโตเด่น YoY (คาดที่ 24-32 ล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 1/65 ที่ 19.35 ล้านบาท Backlog ณ สิ้นงวด Q1/66 ที่ 648 ล้านบาท รายได้นับจากไตรมาส 2/66 จะเพิ่มขึ้นได้แรงหนุนการเพิ่มกำลังผลิตโรงงานบางใหญ่-บางเลนรวม 130,000 คิวต่อปี (COD เดือน เม.ย.) ขณะเดียวกันราคาขายเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น อิงดัชนีราคาวัตดุก่อสร้างกลุ่มซีเมนต์และผลิตภัณฑ์คอนกรีตไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น 3.8%YoY และ 1.7%YoY ตามลำดับ DAOL Strategy ประเมินกำไรสุทธิปี 66-67 ที่ 129 ลบ. และ 151 ลบ. +28%YoY และ +17%YoY ตามลำดับ

– SHR (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท ระยะสั้นกำไรไตรมาส 1/66 คาดยังโตแข็งแรงจาก Rev Par ของไทยและมัลดีฟส์ที่โตแรง ชดเชย UK และ Outrigger หดตัวจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนราคาก๊าซยุโรปปรับลงต่อเนื่องเป็นบวกต่อต้นทุน คาดปี 66 กำไรเร่งตัวเป็น 458 ลบ.จาก Breakeven ปีก่อน ราคาหุ้นพักตัวลง 14% จาก High ปีนี้ ทำให้ Valuation น่าสนใจโดยเทรดที่ 2023PBV 0.87 เท่า

– BBL (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 180 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 10,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8%qoq และ 46%yoy และจะขึ้นเครื่องหมาย XD 3 บาท 21 เม.ย.ให้ Dividend yield 1.9%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top