บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (17-21 เม.ย.) มีแนวรับอยู่ที่ 1,575 และ 1,550 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,600 และ 1,630 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) และผลประกอบการงวดไตรมาส 1/66 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนเม.ย.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/66 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีก
ความเคลื่อนไหวในสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยปรับขึ้นจากสัปดาห์ก่อนแต่เผชิญแรงขายลดเสี่ยงก่อนหยุดยาว ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรมหลังหุ้นไทยร่วงลงแรงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่มีแรงซื้อเข้ามาก่อนการประกาศงบไตรมาส 1/66 และก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงช่วงกลางสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ ขณะที่ปริมาณซื้อขายค่อนข้างเบาบาง อนึ่งกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยอีกครั้งหลังขายสุทธิติดต่อกันมาหลายสัปดาห์
ในวันพุธ (12 เม.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,592.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.99% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 39,071.41 ล้านบาท ลดลง 8.81% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.71% มาปิดที่ระดับ 545.22 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย