ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้องในคดีแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 4 คดีที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม., นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สกลนคร, นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.สุโขทัย และนายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์จากสุโขทัย ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากการดำเนินการของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ศาลเห็นว่า เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยสัดส่วนจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง ทั้งในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร, จ.สกลนคร และ จ.สุโขทัย ตามประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.66 จำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ในแต่พื้นที่มีความแตกต่างกันไม่เกิน 10% ของค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง 162,766 คนต่อจำนวน ส.ส. 1 คนจนเกินไป
การที่ กกต.ออกประกาศฯ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร 33 เขตเลือกตั้ง จ.สกลนคร 7 เขตเลือกตั้ง และ จ.สุโขทัย 4 เขตเลือกตั้ง จึงเป็นการประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (5) กำหนดว่า จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคนให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกัน และต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน จึงพิพากษายกฟ้อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 66)
Tags: กกต., คณะกรรมการการเลือกตั้ง, พรรคชาติพัฒนากล้า, อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี, เลือกตั้ง