นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค โดยมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลังตัวเลขภาคแรงงานออกมาอ่อนแอกว่าคาดต่อเนื่อง ประกอบกับไทยยังอยู่ในช่วงของวันหยุดยาว ทำให้อาจเห็นการซื้อขายที่เบาบาง แต่ยังได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังกกพ.ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนฯ ให้แนวรับไว้ที่ 1,576-1,563 จุด และแนวต้าน 1,586-1,579 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งไซด์เวย์ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยยังมีปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ (ADP Employment) เดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 1.45 แสนราย แบ่งเป็น ภาคบริการ 7.5 หมื่นราย และภาคการผลิต 7 หมื่นราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.1 แสนราย และชะลอจากเดือน ก.พ. 2.61 แสนราย ซึ่งออกมาอ่อนแอเหมือนกับตัวเลขตำแหน่งงานว่าง JOLTs Job opening ที่ออกมาเมื่อวานที่ 9.93 ล้านรายทำระดับต่ำสุดในรอบสองปี
อย่างไรก็ตามมองการชะลอตัวลงของตัวเลขภาคแรงงาน น่าจะส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอลงได้ และเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
สำหรับปัจจัยในประเทศคาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นบวกต่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงของวันหยุดยาว ซึ่งจะต่อเนื่องไปถึงเทศกาลวันสงกรานต์ อาจเห็นการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเบาบาง ให้แนวรับไว้ที่ 1,576-1,563 จุด และแนวต้าน 1,586-1,579 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,485.29 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,105.02 จุด เพิ่มขึ้น 14.64 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,087.96 จุด เพิ่มขึ้น 91.09 จุด หรือ +0.76%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 27,554.37 จุด เพิ่มขึ้น 81.74 จุด หรือ +0.30% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 1% แต่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,312.48 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.01%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 เม.ย.66) 1,571.13 จุด ลดลง 22.92 จุด (-1.44%) มูลค่าการซื้อขาย 48,882.58 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,148.64 ลบ. เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 80.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 เม.ย.) อยู่ที่ 5.49 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.14 อ่อนค่าตามภูมิภาค กังวลศก.โลกถดถอย-จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
– “จิตตะ” ชี้ความท้าทายสตาร์ตอัปปีนี้ เหตุ เทรนด์เม็ดเงินลงทุน “กองทุนวีซี” ทั่วโลกชะลอลงทุนต่อเนื่อง จากปี 65 ลดลง 35% เหลือ 4.45 แสนล้านดอลลาร์ แนะธุรกิจต้องมีโมเดลกำไรเติบโต-ตรงใจ ผู้บริโภคดึงเงินระดมทุน “กรุงศรีฟินโนเวต” เตรียมตั้งกองทุนใหม่ “พันล้าน” ครึ่งปีหลัง ลงทุนสตาร์ตอัปไทยที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น บลจ.ไทยพาณิชย์ เชื่อระยะยาวน่าสนใจลงทุน
– บีโอไอ เผยยอดส่งเสริมกิจการยานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบพุ่งกว่า 1 แสนล้านบาท เดินหน้าเร่งผลักดันนโยบายส่งเสริมลงทุน รองรับดีมานด์ในประเทศพุ่งขึ้น 8 เท่า ระบุจีนเตรียมตั้งฐานผลิตในไทย
– “บิ๊กตู่” สั่งเร่งแก้ปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินแพง “อธิรัฐ” แจงเหตุดีมานด์เดินทางพุ่ง “กพท.” เผย 5 ปัจจัยบริการภาคพื้น “สุวรรณภูมิ” ไม่พอรองรับ แอร์ไลน์จัดหา-ซ่อมเครื่องบินไม่ทัน ต้องเร่งขยายขีดความสามารถทั้งระบบ
– เศรษฐาแจงที่มาเงินกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 1 หมื่น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน จัดเก็บภาษีได้เพิ่ม ย้ำไม่ลงชิงส.ส. เพราะถนัดงานบริหารมากกว่า ไม่อยากแย่งเก้าอี้ผู้ชำนาญด้านกฎหมาย ‘จุรินทร์-อนุทิน-สุวัจน์’ ปัดวิจารณ์นโยบายเติมเงินดิจิทัล โยนให้ประชาชนตัดสิน ‘ชัยวุฒิ’ เย้ยมุขเดิมเพื่อไทย ‘ธนกร’ ชี้แค่ตัวเลขหวือหวา หวังดึงเรตติ้ง ถามเอาเงินจากไหน 5 แสนล้าน
หุ้นเด่นวันนี้
– SCB (กรุงศรี พัฒนสิน) แนะนำ “ซื้อ” เป้า 160 บาท เป็นแบงก์แรกประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR MRR และ MOR สูงกว่าที่เราคาดไว้เป็นบวกหนุน NIM และกำไรสุทธิของ SCB เพิ่มขึ้น
– GUNKUL (ดาโอ) แนะนำ “ซื้อ” เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.40 บาท ประมาณการรายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังชนะการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 832 MW (อาจมีลดทอนลงตามสัดส่วนการถือหุ้นร่วมกับพันธมิตร) เทียบกับปัจจุบัน มีกำลังการผลิตรวม 600 Equity MW งานกลุ่ม EPC จะเร่งตัวขึ้นตามโครงการใหม่ที่เข้ามาหลังการประมูลครั้งใหญ่ Outlook ของรายได้ปี 66-70 สดใส ประเมินกำไรสุทธิปี 66-67 ที่ 1.63 พันล้านบาท และ 1.77 พันล้านบาท -46%YoY และ +9%YoY ตามลำดับ
– MAKRO (พาย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท คาดว่าการรีไฟแนนซ์หนี้จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/66 เราคาดว่าดอกเบี้ยจ่ายจะแตะยอดสูงในไตรมาส 2/66 และเชื่อว่าจะลดลง QoQ ในไตรมาส 3-4/66 จากการชำระหนี้และคาดการณ์ว่าต้นทุนดอกเบี้ยจะต่ำ 4% จากต้นทุนหุ้นกู้ใหม่ที่ลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 66)
Tags: SET, กรภัทร วรเชษฐ์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย