นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวว่า พรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตชูสโลแกน “กล้า FIGHT : ชาติพัฒนา กล้า เราสู้เพื่อคุณ” ในบรรยากาศในสนามมวย พร้อมกล่าวว่า เรามาเพื่อสู้ให้กับปัญหาประชาชน โดยเฉพาะปัญหาของแพง ภาระหนี้สิน ถือเป็นภารกิจสำคัญของพรรคในการต่อสู้กับของแพง ซึ่งพรรคตระหนักดีว่า นโยบายการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความกล้าในการรื้อระบบโครงสร้าง เพื่อให้ประชาชนมีค่าครองชีพที่ถูกลงอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ พรรคจะมารื้อระบบโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้มีค่าน้ำมัน และค่าไฟที่เป็นธรรม เราต้องปรับและรื้อโครงสร้างไฟฟ้า เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ พรรคจะมีกองทุนให้ประชาชน สามารถติดตั้งโซล่าร์ปลอดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ เราเป็นพรรคเน้นสร้างโอกาสทำมาหากิน มีโอกาสให้แข่งขันได้ และเข้าถึงแหล่งทุนอย่างเป็นธรรม โดยจะมีรื้อระบบสินเชื่อ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนกู้ยืมเงินจากระบบธนาคารได้ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ยกเลิกแบล็กลิสบูโร เอาระบบเครดิสสกอร์ขึ้นมาแทน เพื่อเป็นโอกาสในการแข่งขัน และเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน ส่วนผู้ที่มีรายได้ประจำจะมีการปรับลดภาระภาษี ซึ่งทุกคนรายได้ต่ำกว่า 4 หมื่นบาท ต้องได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคล
“เราไม่ได้เป็นพรรคมาเสนอ ลด แลก แจก แถมให้ประชาชน เราเป็นพรรคที่เสนอยุทธ์ศาสตร์ชัดเจน ด้วยยุทธศาสตร์สร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาทให้กับประเทศ ในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี หรือที่เราเรียกว่า ยุทธศาสตร์ 7 เฉดสี”นายกรณ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ชพก. กล่าวว่า พรรครวบรวมคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ทำสตาร์ทอัพมา รวมตัว Young Smart Farmer ด้วยชุดความคิดและนโยบาย และมาตรฐานคุณภาพความเชี่ยวชาญ เรื่องเศรษฐกิจและปากท้องของผู้สมัคร
“ในฐานะหัวหน้าพรรคมีความภาคภูมิใจในผู้สมัครทุกคน และมีความมั่นใจว่า เราเดินหน้าเต็มสูบ ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน พรรคเราจะเป็นพรรคตอบโจทย์ประเด็นปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อน ให้กับประชาชนได้ เราจะมากำหนดแนวทางทิศทาง การสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ วันนี้เป็นวันสำคัญ วันนี้เราประกาศ พร้อมสู้และชนกับทุกปัญหาของประชาชน ด้วยผู้สมัครครบทีม ทั้ง 33 เขต” นายกรณ์ กล่าว
หลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตแล้ว นายกรณ์ กล่าวว่า มั่นใจในผู้สมัครทั้ง 33 เขต เช่นเดียวกับผู้สมัครที่โคราชที่ส่งครบ 16 เขต ซึ่งได้เตรียมตัวมานาน และผู้สมัครทุกคนเข้าใจทุกนโยบายเป็นอย่างดี ซึ่งทุกนโยบายออกแบบมาตอบโจทย์ปัญหาปากท้อง และสร้างโอกาสการทำมาหากินให้กับประชาชน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ลดต้นทุนพลังงาน
ในวันที่ 3 เม.ย.66 ผู้สมัครทุกคนก็พร้อมไปสมัครอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นผู้สมัครทุกคนก็จะลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนในเขตของตนเอง และนำเสนอนโยบายของพรรค
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค ชพก. มั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัครของพรรคจะมีโอกาสได้รับใช้คนกทม. เพราะทางหัวหน้าพรรคได้คัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพ และนโยบายของพรรคครั้งนี้ตอบโจทย์คน กทม. ทั้งเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม
ส่วนการจัดทำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดทของพรรคนั้นคาดว่าภายใน 2 วันนี้คงจะดำเนินการเรียบร้อย ส่วนตัวจะลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ต้องขอหารือในขั้นสุดท้ายก่อนว่า ใครจะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี หรือใครจะอยู่ในส.ส.แบบบัญชีรายชื่อบ้าง ซึ่งตามกติกาก็สามารถเสนอชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 คน
ส่วนกรณีศาลปกครองสูงสุดเตรียมตัดสินคดีแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ใช่เรื่องของพรรค ในส่วนของพรรคไม่ได้มีผลกระทบอะไร
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน ได้แก่
เขต 1 นายนันทพันธ์ ศุภณ์ภัทรพงศ์ ทูตสาธารณสุข
เขต 2 นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้บริหารการเงิน
เขต 3 นายปรัชญา อึ้งรังษี นักธุรกิจนำเข้าอาหารทะเล
เขต 4 นายปรินต์ ทองปุสสะ นักธุรกิจไฟแช็ค
เขต 5 นายกอบกฤต สุขสถิตย์ นักวิชาการ
เขต 6 นายนที ศิริธรรมวัฒน์ นักธุรกิจนวัตกรรม
เขต 7 นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม สื่อมวลชน
เขต 8 น.ส.วิเวียน จุลมนต์ นักต่อสู้เพื่อประชาชน
เขต 9 น.ส.แวววรรณ ก้องไตรภพ นักธุรกิจเสื้อผ้ากีฬา
เขต 10 นายอรรถสิทธิ์ เหลืองไพบูลย์ สตาร์ทอัพ
เขต 11 นายวิโรจน์ จิตรอบอารีย์ นักธุรกิจ
เขต 12 นายโชคภิวัสร์ เลิศสุรสีห์ สื่อมวลชน
เขต 13 นายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี นักการตลาด
เขต 14 นายธาม สมุทรานนท์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เขต 15 ว่าที่ ร.อ.วีรพล วงษ์มะเซาะ นักต่อสู้เพื่อที่ดินทำกินของประชาชน
เขต 16 นายกฤษณ์ เครือเจริญพร อดีตพนักงาน บมจ.การบินไทย
เขต 17 นายฐีรทรัพย์ อภิญญาภรณ์ นักต่อสู้เพื่อประชาชน
เขต 18 น.ส.ริณดา คงตาละนันท์ นักต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์
เขต 19 น.ส.ภัทรานิษฐ์ กิติรันดร์กูล นักธุรกิจโลจิสติกส์
เขต 20 นายกรกฤษณ์ วงศ์คุณหยก นักวิชาการ
เขต 21 นายอรรถเวช กองนักวงษ์ แพทย์แผนโบราณ
เขต 22 นายดิเรก ขันฑพร สตาร์ทอัพกลุ่มพลังงานสะอาด
เขต 23 น.ส.ยศยา ชิยาปภารักษ์ นักธุรกิจสายมู
เขต 24 นายรัชตะ สมบัติลาภตระกูล นักดนตรี
เขต 25 น.ส.สวิชญา วาทะพุกกะณะ นักต่อสู้เพื่อผู้พิการ
เขต 26 นายสงกรานต์ พงษ์พันนา ข้าราชการครู
เขต 27 นายณัฐธวรรธน์ พัชรพรนุกูล นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
เขต 28 นายธนาวุฒิ รัศมีฉาย นักไกล่เกลี่ย
เขต 29 พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ข้าราชการตำรวจ
เขต 30 นายวันชัย สุทธิอารีกุล สตาร์ทอัพกลุ่มอาหาร
เขต 31 นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ครูสอนดนตรี
เขต 32 น.ส.อรไพลิน อัครเลิศวรปรีชา แพทย์แผนไทย
เขต 33 นายกฤษณ์ สุริยผล นักธุรกิจโลจิสติกส์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 66)
Tags: กรณ์ จาติกวณิช, การเมือง, พรรคชาติพัฒนากล้า, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, เลือกตั้ง