HILITE: DEXON ปิดเทรดวันแรก 4.62 บาท เหนือจอง IPO 2.67%

DEXON ปิดเทรดวันแรกที่ 4.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท (+2.67%)จากราคา IPO 4.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,561.71 ล้านบาท จากราคาเปิด 4.56 บาท ราคาสูงสุด 5.30 บาท ราคาต่ำสุด 4.54 บาท

บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON) ไว้ที่ 5.3 บาท ที่ PER 24.03x โดยมีความเสี่ยงด้านลบ ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและยุโรป การหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น การไม่ได้รับการต่อสัญญา หรือการเลื่อนใช้บริการ

สำหรับตลาดในประเทศนั้น DEXON ถือว่าเป็นผู้นำสำหรับกลุ่มทั้งในด้านการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และแบบพื้นฐาน โดยมีส่วนแบ่งรายได้ 300-400 ลบ. จากประมาณ 3,000 ลบ. ของตลาดในประเทศ โดยเติบโตต่อเนื่องจากปี 63-65 ที่ CAGR 14% (ส่วนหนึ่งมาจากรายได้จากการวิจัยถึง 44 ลบ.ในปี 64 ซึ่งไม่สม่ำเสมอ)

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ผู้บริหารมองเป็นเป้าหมายในการเติบโต โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป ซึ่งยังมีความท้าทายอยู่มากที่จะต้องหาฐานลูกค้าใหม่ๆ แต่ผู้บริหารมองเห็นแนวโน้มที่ดีจากอุปสงค์การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่มากกว่าจำนวนผู้ให้บริการขณะนี้ซึ่งมีน้อยราย

โดยในปี 65 รายได้จากการตรวจสอบด้วยเทคฯ ขั้นสูงในต่างประเทศเติบโตกว่า +100% จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการรุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตรากำไรที่สูงกว่า (จากปี 65 ที่ 43.5% เทียบกับแบบตรวจสอบแบบพื้นฐานที่ 37.2%) และการขยายสาขาจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการ (เช่น ค่าเดินทาง) และดันอัตรากำไรสุทธิให้สูงขึ้นได้ (+17.22/4.17/2.48% ในปี 65/ 64/63 อัตรากำไรที่ต่ำในปี 63/64 เนื่องจากโควิด ซึ่งก่อนหน้าปี 62 อยู่ที่ 7.2% )

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตระยะยาวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรฯ ค่อนข้างจำกัดแล้วจากการหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น แต่ในระยะสั้นยังคงฟื้นตัวจากการเปิดประเทศของจีน และการเพิ่มกำลังผลิต ซึ่งน่าจะเห็นราคาน้ำมันฟื้นตัวจาก ณ ราคาปัจจุบัน แต่คาดว่าจะไม่สูงเท่ากับในปีที่แล้ว และน่าจะเห็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงแรกจากการลงทุน โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรเพิ่มขึ้นหลังปี 67

DEXON ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมและสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน และอื่น ๆ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมด้านพลังงาน ปิโตรเคมี ตลอดจนอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ซึ่งการให้บริการเป็นกระบวนการที่มีการวางแผนเพื่อความปลอดภัยโดยยังคงรักษาคุณสมบัติของตัวทรัพย์สินและความต่อเนื่องของการทำงาน โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่หลากหลายตามลักษณะของงาน

การให้บริการตามโครงสร้างรายได้แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) บริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Inspection Technology) 2) บริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน (Conventional Inspection Technology) 3) บริการฝึกอบรมด้านการตรวจสอบ (Training Services) และ 4) การให้บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้งและซ่อมบำรุง (Engineering design, Assambly, Installation and Maintenance Service) โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นลูกค้าซึ่งอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เช่น ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ กลุ่มอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และโรงไฟฟ้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top