สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ และหลังจากนั้นจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอินเดียยังคงพุ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ RBI กำหนดไว้ที่ 6.00% โดยแตะที่ระดับ 6.52% ในเดือนม.ค. และผ่อนคลายลงเล็กน้อยสู่ระดับ 6.44% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้ RBI ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง
นักเศรษฐศาสตร์ 49 จาก 62 คนจากผลสำรวจคาดว่า RBI จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 6.75% ในการประชุมวันที่ 3-6 เม.ย.
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 23-28 มี.ค.ยังคาดอีกว่า RBI จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปี
หากการคาดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็เท่ากับว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วทั้งสิ้น 2.75% นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังคงเชื่อว่า เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโต 6.9% ในปีงบประมาณนี้ และจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.0% ในปีหน้า ซึ่งคาดการณ์ดังกล่าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนก.พ.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 66)
Tags: RBI, ธนาคารกลางอินเดีย, อัตราดอกเบี้ย, อินเดีย