อนามัยโพล เผยคนกังวล “ซีเซียม” ห่วงตกค้างสิ่งแวดล้อม-กระทบสุขภาพ

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลอนามัยโพลจากกรณีที่ซีเซียม-137 หายจากบริษัทผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดปราจีนบุรี พบว่า ประชาชน 75.5% มีความกังวลต่อการแพร่กระจายของสารดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างอาหารและน้ำบริเวณใกล้เคียง เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 หายจากบริษัทผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดปราจีนบุรี และถูกนำเข้าเตาหลอมเหล็กในโรงงานหลอมเหล็ก และพบว่ามีการขนส่งเถ้าโลหะที่มีการปนเปื้อนสารดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ให้มีความวิตก และความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพนั้น

กรมอนามัย ได้มอบหมายให้สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพพร้อมด้วยศูนย์อนามัยที่ 6 จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ในการเตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการฉุกเฉินรับมือกรณีเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีในพื้นที่ตั้งแต่เริ่มต้น

นอกจากนี้ ยังได้สุ่มเก็บตัวอย่างอาหารและน้ำบริเวณโดยรอบชุมชน โกดัง และที่เก็บฝุ่นเหล็กดังกล่าว ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร อาทิ ปลาทะเลสด ผักและผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่ น้ำประปาที่ใช้ในครัวเรือน น้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ และน้ำบ่อตื้นที่ใช้การรดผักและผลไม้ พร้อมทั้งจัดส่งตัวอย่างดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ ณ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อให้ทราบผลการตรวจวิเคราะห์ และสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน

อย่างไรก็ดี จากผลการสำรวจความเห็นของประชาชนต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านทางอนามัยโพล ตั้งแต่วันที่ 23-24 มี.ค. 66 จำนวน 379 คน พบว่า ประชาชนได้ทราบข่าวและรู้สึกกังวลมากถึง 75.5% ในขณะที่ 23.5% ทราบข่าวแต่ไม่รู้สึกกังวลหรือไม่สนใจข่าวนี้ และ 1.0% ไม่ทราบข่าว

สำหรับเหตุผลที่ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับซีเซียม-137 ที่พบมากที่สุด คือ การแพร่กระจายและตกค้างในสิ่งแวดล้อม 93.7% รองลงมา คือ กังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว 89.8% และไม่มั่นใจในการดูแลจัดการของโรงงานกลัวเกิดเหตุการณ์ซ้ำ 62.9%

นอกจากนี้ ประชาชนต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว 80.2% ข้อมูลด้านความปลอดภัยของอาหาร ผัก ผลไม้ และน้ำดื่ม 77.0% วิธีลดและป้องกันการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและการเข้าสู่ร่างกาย 73.6%

ส่วนสิ่งที่ประชาชนต้องการให้หน่วยงานสาธารณสุขดำเนินการมากที่สุด คือ การเฝ้าระวังตรวจการตกค้างในอาหารและน้ำ 80.2% การตรวจสุขภาพ กรณีที่รู้สึกมีอาการผิดปกติ 78.6% และการสื่อสารและให้คำแนะนำด้านสุขภาพ 77.3%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top