ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 เผยผลสอบสวนโรคกรณีเด็กนักเรียนซึ่งโรงเรียนอยู่ใกล้โรงหลอมเหล็ก อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีอาการป่วย 25 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H3N2) ไม่เกี่ยวข้องกับซีเซียม-137 ขณะที่ผลการตรวจปัสสาวะในคนงาน 52 คน ไม่พบการเปรอะเปื้อนของซีเซียม-137 เช่นกัน
นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนโรคในเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกกระท้อน ตำบลลาดตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงงานหลอมเหล็กที่มีการหลอมวัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ทยอยมีอาการป่วยต่อเนื่องหลายราย
โดยได้รับรายงานผลการสอบสวนโรคร่วมกันระหว่าง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (สคร.) จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี และโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 66 พบว่า โรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวมกัน 129 คน และบุคลากรรวม 11 คน
ทั้งนี้ พบมีอาการป่วยทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อนตั้งแต่วันที่ 21-27 มี.ค. 66 พบผู้ป่วยจำนวน 25 ราย คิดเป็น 19.38% ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 ราย ตามมาด้วยประถมศึกษาปีที่ 3 และ 1 ชั้นละ 5 ราย ประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4 ชั้นละ 4 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น และไอ ปัจจัยเสี่ยงมาจากการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ซึ่งเป็นช่วงสอบปลายภาค นักเรียนที่มีอาการป่วยรายแรกจึงไม่ได้หยุดเรียน และมาร่วมสอบกับเพื่อนตามปกติ
นพ.สุเทพ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นการป่วยกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัด (Common Cold) ได้สั่งยารักษาตามอาการ โดยให้ผู้ป่วยรับยาที่ รพ.สต.ลาดตะเคียน และ รพ.สต.หาดนางแก้ว
ส่วนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่า การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) จากโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ในกลุ่มที่มีอาการ 19 ราย ผลปกติทุกราย และตรวจโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit (ATK) ในกลุ่มนักเรียนที่มีอาการ 23 ราย ผลเป็นลบทุกราย
ขณะเดียวกัน ทีมสอบสวนโรค สคร.ที่ 6 ได้เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย 5 ราย ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อไวรัสก่อโรคระบบทางเดินหายใจ ด้วยเทคนิค RT-PCR พบสารพันธุกรรมของไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ 3 (H3N2) ทั้งหมด
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการป่วยเป็นกลุ่มก้อนดังกล่าวเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซีเซียม-137 ซึ่งทีม MCATT โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ได้สอบถามพูดคุยกับครู ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อเยียวยาจิตใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี และ สคร.ที่ 6 ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจและสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย
สำหรับการตรวจวัดปริมาณรังสีซีเซียม 137 ในตัวอย่างปัสสาวะของคนงานในโรงงานหลอมเหล็ก ที่เก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 66 ด้วยเครื่องแกมมาสเปคโตรมิเตอร์ จำนวน 52 ตัวอย่าง มีค่าอยู่ในระดับปริมาณรังสีพื้นหลัง ไม่พบการเปรอะเปื้อนกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในร่างกายของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด และได้ทำการเก็บตัวอย่างปัสสาวะจากคนงานในโรงงานที่ยังไม่เคยส่งตัวอย่างเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา
ส่วนการเก็บตัวอย่างในสิ่งแวดล้อมและตรวจวัดรังสีแกมมาในอากาศแบบเรียลไทม์ ภายในจังหวัดปราจีนบุรี และรอบโรงงานหลอมเหล็ก ได้รับข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจในการเฝ้าระวังและตอบสนอง กรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในพื้นที่เกิดเหตุ จังหวัดปราจีนบุรี ว่า อยู่ในเกณฑ์ความปลอดภัย และไม่พบบริเวณที่มีรังสีสูง อันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)
Tags: ซีเซียม-137, ปราจีนบุรี, สารกัมมันตรังสี, สุเทพ เพชรมาก