บลจ.เคดับบลิวไอ ออกทริกเกอร์ฟันด์ลุยหุ้นไทยเชื่อเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องเปิดขาย 30 มี.ค.

บลจ.เคดับบลิวไอ จับจังหวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงออก “กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ ไทย ทริกเกอร์ ฟันด์ 6M1 (KWI TTG6M1)” กองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย ผลตอบแทนคาดหวังที่ 6% ในระยะเวลา 6 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยสามารถมีน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยขณะใดขณะหนึ่งได้ตั้งแต่ 0-100% ถือเป็นจุดเด่นสำหรับการบริหารจัดการภายใต้ภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง พร้อมเสนอขายครั้งแรก 30 มี.ค.-5 เม.ย.นี้

นายสุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เคดับบลิวไอ กล่าวว่า ความผันผวนจากปัญหากลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมากกว่า 100 จุด จากระดับประมาณ 1,700 จุด สู่ระดับต่ำกว่า 1,600 จุด ซึ่งบริษัทเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการออกกองทุน KWI TTG6M1 เนื่องจากยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นไทยจากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง (Election rally)

ขณะที่การปรับลดลงของดัชนีที่ผ่านมาเป็นเพียงปัจจัยภายนอกและปัจจัยชั่วคราว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานเศรษฐกิจและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไทยอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าปัญหาในภาคธนาคารสหรัฐฯ และยุโรปจะค่อยๆ คลี่คลายลงไปในทางที่ดีขึ้น หลังธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ได้เข้ามาดูแลและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ SET index ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับราคาต่อกำไรสุทธิ (Current PE) ที่ 18.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ระดับ 22 เท่า (ที่มา : Bloomberg ณ วันที่ 21 มีนาคม 2566) ขณะที่การเติบโตของกำไรสุทธิอีก 12 เดือนข้างหน้า สูงถึง 22.73% ซึ่งบริษัทฯ มองระดับดัชนีเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ที่ระดับ 1,743 จุด คิดเป็นระดับราคาต่อกำไรสุทธิ (PE) ที่ 17 เท่า (ณ กำไรสุทธิต่อหุ้นคาดการณ์ 12 เดือนข้างหน้าที่ 102.54 จุด) หรือคิดเป็นอัพไซด์จากระดับดัชนีปัจจุบันที่ราว 10%

กองทุน KWI TTG6M1 กองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย เน้นบริหารจัดการกองทุนเชิงรุก (Active fund management) ทั้งการคัดเลือกหุ้นรายตัว (Stock selection) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีศักยภาพในการเติบโต และราคาเหมาะสม รวมถึงการจับจังหวะตลาด (Market timing) ควบคู่กันไป เพื่อให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในระยะเวลาที่จำกัด

กองทุนมีเงื่อนไขการเลิกกองทุน (ทริกเกอร์) ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจดทะเบียนกองทุน ดังนี้

1) กรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.72 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และบริษัทฯ สามารถรวบรวมทรัพย์สินสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในราคาไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย

หรือ 2) กรณี ณ วันทำการใดก็ตามที่กองทุนมีทรัพย์สินสภาพคล่องเพียงพอในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในราคาไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย

อย่างไรก็ดี หากครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทุนรวมแล้ว ไม่เกิดเหตุการณ์เลิกกองทุนข้างต้น บริษัทฯ จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดจนกว่าจะเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามที่ระบุไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top