นักลงทุนหั่นคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก หลังเกิดภาวะปั่นป่วนในภาคธนาคาร โดยเครื่องชี้วัดตลาดส่งสัญญาณว่า ช่วงเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วนั้นได้มาถึงจุดสิ้นสุดแบบฉับพลัน
นักลงทุนผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย หรือสวอปอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Swap : IRS) เชื่อว่า ธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จำนวนมากจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม และในบางกรณีจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปีนี้
“อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว” นายมาร์ก ซานดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทมูดีส์ อะนาลีติกส์ (Moody’s Analytics) ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า “ระบบธนาคารทั่วโลกที่เปราะบางขึ้นแบบฉับพลันกดดันให้ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ต้องยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น”
สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Swaps Rates) ขณะนี้คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางรายใหญ่อีก 7 แห่งมีแนวโน้มที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดยังคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไปว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับหรือไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. หลังเมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค.มีการคาดการณ์เป็นอย่างสูงว่า BoE และ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.
“ก่อนหน้านี้เราเผชิญกับวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ตามด้วยภาวะปั่นป่วนในภาคธนาคาร ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยจะมาถึงจุดสูงสุดเร็ว ๆ นี้”
นางซูซานนาห์ สตรีเทอร์ นักวิเคราะห์ด้านการลงทุนระดับอาวุโสของบริษัทฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ กล่าว
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า การหั่นคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลกครั้งนี้มีขึ้น หลังมีการดำเนินนโยบายคุมเข้มการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ โดยตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางรายใหญ่ทั้งหมด 18 แห่งเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 16.45%
ในช่วงต้นเดือนมี.ค. คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ที่กรอบ 5.5% -5.75% ภายในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่กรอบ 4.75% – 5% แต่ขณะนี้เครื่องบ่งชี้สัญญาอนุพันธ์ส่งสัญญาณว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า กรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ที่กรอบประมาณ 4%
ในช่วงต้นเดือนนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นแตะ 4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 3% แต่ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวที่ 3% ในช่วงสิ้นปีนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์เมื่อต้นเดือนมี.ค.ว่า อัตราดอกเบี้ยของ BoE มีแนวโน้มจะแตะ 4.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ ณ วันจันทร์ที่ 27 มี.ค. นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4.25%
“ธนาคารกลางรายใหญ่ เช่น เฟดและ ECB ควรออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก อย่างน้อยก็จนกว่าตลาดการเงินจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง”
นายอีริก นีลเซน หัวหน้าที่ปรึกษานักเศรษฐศาสตร์ของยูนิเครดิต แบงก์ (UniCredit Bank) กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)
Tags: ธนาคาร, วิกฤตธนาคาร, วิกฤตแบงก์, อัตราดอกเบี้ย