นายบิลล์ วินเทอร์ส ซีอีโอของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) กล่าวในระหว่างการประชุมด้านการเงินที่ฮ่องกงในวันนี้ว่า การที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ตัดมูลค่าตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ของธนาคารเครดิต สวิส ลงเหลือศูนย์นั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด และสร้างความยากลำบากให้กับหน่วยงานกำกับดูแลด้านธนาคารทั่วโลก
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า หน่วยงานกำกับดูแลมีความมั่นใจในการชำระหนี้ของเราหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่า ตลาดมีความเชื่อมั่นในสภาพคล่องของเราหรือไม่”
นายวินเทอร์สกล่าว พร้อมระบุถึงวิกฤตการธนาคารที่เกิดขึ้นในสหรัฐและยุโรป
ทั้งนี้ ยูบีเอสได้เข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า ตราสาร AT1 ของเครดิต สวิสซึ่งระบุมูลค่าหน้าตั๋วไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (1.735 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะถูกตัดมูลค่าลงเหลือศูนย์ นอกจากนี้ ข้อตกลงยังกำหนดว่า ผู้ถือ AT1 ของเครดิต สวิส จะไม่มีสิทธิ์ในการรับเงินชดเชย แต่ผู้ถือหุ้นสามัญกลับได้รับเงินชดเชย 3.23 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วผู้ถือหุ้นสามัญมักมีอันดับเป็นรองผู้ถือตราสารหนี้ในการได้รับเงินชดเชยในกรณีธนาคารล้มละลาย
AT1 เป็นเครื่องมือการลงทุนยอดนิยมในทวีปเอเชีย เนื่องจากเสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไป โดยผู้ออก AT1 ส่วนใหญ่ล้วนเป็นธนาคารยุโรปที่มีชื่อเสียงและอันดับความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง ทำให้เป็นหลักทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์กันว่านักลงทุนฮ่องกงและสิงคโปร์อยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ AT1 เครดิต สวิสรายใหญ่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 66)
Tags: AT1, credit suisse, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด, เครดิตสวิส