จากเหตุการณ์เกิดชายคุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนกราดยิง ภายในหมู่บ้านกรุงเพชร ซอย 4 ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 22 มี.ค. 66 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย และเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจวิสามัญผู้ก่อเหตุ เป็นการปิดปฏิบัติการกว่า 15 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวถึงเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมืองเพชรบุรีว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมง สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจทำตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากให้ครอบครัวและเพื่อนสนิทเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวแต่ไม่เป็นผลไม่รับข้อเสนอ คนร้ายยิงสวนกลับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมและเข้ากดด้นบริเวณรอบบ้าน เพื่อความปลอดภัยของเด็กและชาวบ้านบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งสุดท้ายจำเป็นต้องยุติสถานการณ์ หลังปรับแผนปฏิบัติการถึง 4 ครั้ง ส่งชุดปฎิบัติการเข้าควบคุมแต่คนร้ายยิงต่อสู้กลับมา โดนโล่กำบังของตำรวจชุดอินทน์ 7 ชุดปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 และคอมมานโด จำนวน 6 นัด จนมีสภาพยุบ ถ้าตำรวจไม่มีโล่คงได้รับบาดเจ็บ ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ คนก่อเหตุจะยิ่งคุ้มคลั่ง จนตัดสินใจวิสามัญในที่สุด ไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น
ทั้งนี้ห้องที่คนร้ายหลบซ่อนอยู่ชั้น 2 มีเหล็กดัดมีการปิดไฟและปิดม่านตลอด ไม่สามารถใช้โดรนตรวจจับภาพหรือมองเห็นได้ ตอนเข้าไปคนร้ายยิงปืนอย่างต่อเนื่อง ยิงแบบ double tap เนื่องจากมีประวัติฝึกยิงปืน มีกระสุนจำนวนมาก คนร้ายชอบซ้อมยิงปืนตามสนามยิงปืนและยิงได้เร็ว นอกจากนั้นมีการนำเฟอร์นิเจอร์มาทำเป็นที่กำบังด้วย
สำหรับเบื้องต้นจากการตรวจสอบในบ้าน พบปืน 1 กระบอก เป็นปืนกล็อก19 หรือ ปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหาว่าจะมีอาวุธปืนมากกว่านี้หรือไม่ โดยจากการตรวจสอบประวัติ คนก่อเหตุมีประวัติ มีความชำนาญในการใช้ปืน ชอบฝึกยิงปืนที่สนามฝึกยิงปืน ซึ่งขณะก่อเหตุจะยิงปืนรัวหลายนัดตอบโต้กลับมา ส่วนผู้เสียชีวิต 3 ราย โดนยิงรวมกัน มากกว่า 30 นัด
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้ยิงแค่เพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องทำร้ายร่างกายแต่ยิงคนอื่นอีกด้วย แต่อาจมีความเครียดเนื่องจากต้องไปขึ้นศาล แต่จากการตรวจสอบประวัติการรักษาไม่พบประวัติป่วยทางจิต สำหรับเหตุการณ์ที่ยืดเยื้อ เนื่องจากคนก่อเหตุยิงตอบโต้ตำรวจ จึงต้องมีการนำชาวบ้านออกมาให้หมดก่อน ถึงจะสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ ก่อนที่จะมีการวิสามัญ
พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุทักบอกเพื่อนทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าจะไม่เจรจาจะต่อสู้กับตำรวจอย่างแน่นอน โดยจากการเข้าตรวจสอบในบ้าน พบปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และ แมกกาซีนบรรจุกระสุน 2 ชุด อีกทั้งได้รับข้อมูลจากญาติ มักจะสั่งซื้อกระสุนทางออนไลน์มาเก็บไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนที่แน่ชัด นอกจากนี้พบว่าบริเวณพื้นบ้านคนก่อเหตุ เทราดน้ำมันพืชไปทั่วบ้าน สันนิษฐานป้องกันการเข้าจู่โจมของตำรวจ
ส่วนประวัติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทับลานทำงานได้แค่ 6 เดือน เมื่อปี 2563 ทางหน่วยงานไม่ต่อสัญญา จากนั้นจึงไปสมัครทหารเกณฑ์ ประจำการประมาณปีเศษ ซึ่งยืนยันว่าปมก่อเหตุเกิดจากเคยมีปัญหากับคู่กรณีเป็นนักศึกษาทั้ง 2 คน ที่เช่าบ้านอยู่ตรงข้าม เมื่อเดือน พ.ย. 65 มีปัญหาทะเลาะวิวาท จนต้องขึ้นศาล มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ 22 มี.ค. 65 มีนัดขึ้นศาล เป็นครั้ง 3 โดยมีทนายและครอบครัวทั้งสองฝ่าย เดินทางไปรอที่ศาลแล้ว แต่ไม่พบว่าทั้งคู่มาตามนัด กระทั่งมารู้ข่าวเหตุการณ์กราดยิง
ด้านนายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เป็นบทเรียนจะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก จะเร่งเยียวยาและช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 66)
Tags: กราดยิง, ณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์, ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์, วิสามัญ, เพชรบุรี