นายจิม เครเมอร์ พิธีกรประจำสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีระบุว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (22 มี.ค.) นั้น ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงเมื่อวานนี้ แต่ความจริงแล้วเป็นผลพวงมาจากการแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ของนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ
ทั้งนี้ นายเครเมอร์ระบุว่า ตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น หากไม่ใช่เพราะนางเยลเลนออกมาพูดว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่โอบอุ้มผู้ถือหุ้น ผู้ถือตราสารหนี้ หรือผู้ฝากเงินในธนาคารที่เพิ่งล้มไปเมื่อไม่นานมานี้
นายเครเมอร์ระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากต่างคาดหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะช่วยเหลือผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นของธนาคารที่เพิ่งล้มไป แต่ความคิดเห็นที่สวนกระแสของนางเยลเลนนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วตลาดการเงิน
นายเครเมอร์ระบุว่า การดำเนินการของเฟดเมื่อวานนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวลเลย โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่สมควรและผู้มีบัญชีเงินฝากควรยินดี นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแสดงความกังวลน้อยลงในเรื่องเงินเฟ้อ เนื่องจากเหตุการณ์ธนาคารล้มจะช่วยสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดี
แต่นายเครเมอร์กล่าวต่อว่า ตลาดกลับไม่ได้ตอบรับในเชิงบวกต่อสถานการณ์ดังกล่าว เพราะนักลงทุนมีความวิตกมากกว่ากับความเห็นในเชิงลบของนางเยลเลน และการที่นายพาวเวลแสดงความวิตกเกี่ยวกับความเปราะบางของภาคธนาคารในการแถลงข่าว
“เราเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ เริ่มมีเสถียรภาพบ้างแล้ว แต่ความเห็นของนางเยลเลน และการตั้งคำถามนายพาวเวลแบบไม่จบสิ้นเกี่ยวกับความเปราะบางของระบบธนาคาร ทำให้เราต้องมานั่งวิตกกังวลกันอยู่ในขณะนี้” นายเครเมอร์กล่าว
อนึ่ง นางเยลเลนชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการด้านบริการทางการเงินและรัฐบาลทั่วไปของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ไม่ได้พิจารณาที่จะรับประกันเงินฝากธนาคารทั้งหมด หลังจากเกิดเหตุการณ์ธนาคารสำคัญของสหรัฐล้ม 2 แห่งในเดือนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 66)
Tags: จิม เครเมอร์, ตลาดหุ้นสหรัฐ, ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, เจเน็ต เยลเลน, เฟด