บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) เท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเดือน พ.ค.-ส.ค.66 รวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย ลดลง -11% จาก 5.33 บาทต่อหน่วยในช่วง ธ.ค.64-เม.ย.66 จะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงแรมและค้าปลีกมี Upside ต่อกำไร
มองเป็น Slightly Positive ต่อค่าไฟงวดใหม่ที่ลดลง -11% โดยค่าไฟถือเป็นอีกหนึ่งในต้นทุนสำคัญของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่เราศึกษา คาดคิดเป็นสัดส่วนราว 6.0-8.5% ของรายได้ปี 66 เบื้องต้นหากค่าไฟตั้งแต่งวดเดือน พ.ค.6 เหลือ 4.77 บาทต่อหน่วย หรือลดลง -11% จากที่เราคาดเดิม จะส่งผลให้กำไรปี 66 ของกลุ่มฯ มี upside ราว +2.2-6.5%
คงคำแนะนำ Bullish ต่อกลุ่มท่องเที่ยวฯ เลือก CENTEL และ MINT เป็น Top pick โดยในระยะสั้น CENTEL สามารถ trading buy ตอบรับแนวโน้มกำไรปกติ Q1/66 ที่จะฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มฯ จาก Maldives ที่เป็น peak season และโรงแรมใน ตจว. ฟื้นตัวมากหลังกลับมาเปิดดำเนินการ ขณะที่ MINT เลือกเป็น top pick สำหรับการลงทุนในระยะยาวจาก valuation ที่น่าสนใจที่สุด โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER66-67 ที่ 29/21x ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ที่ 40/27xฃ
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกที่เราศึกษา หากอ้างอิงปี 65 จะคิดเป็นสัดส่วนราว 1-4% ของรายได้โดยเบื้องต้น หากค่าไฟงวดตั้งแต่ พ.ค.66 ลดลง -11% จะทำให้กำไรปี 66 ของกลุ่มมี upside ราว +4% โดยมากสุดคือ MAKRO และ CPALL (upside ราว +6%) ตามด้วย BJC (upside ราว +4%) ที่สัดส่วนต้นทุนไฟมากสุดเมื่อเทียบกับกำไร
คงน้ำหนักการลงทุน BULLISH โดยเลือก BJC (TP 44 บาท) และ CRC (TP 50 บาท) เป็น Top picks ตาม i) การเป็นผู้ประกอบการที่จะได้ประโยชน์มากสุดจากท่องเที่ยวฟื้น , ii)ประสบความสำเร็จในการเพิ่มสัดส่วนสินค้า high margin ได้ดีกว่ากลุ่ม คาดหนุนกำไร H1/66 โต y-y ได้ดีกว่ากลุ่ม , iii) คาดกำไรปกติปี 66 ยังโตในระดับสูง +28% สำหรับ BJC และ +25% สำหรับ CRC
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 66)
Tags: ค่าเอฟที, ค่าไฟฟ้า, ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ, หุ้นไทย