นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 66 เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีปริมาณงานจากภาครัฐและภาคเอกชน ทยอยเข้ามาให้ประมูลเป็นจำนวนมาก และจะมีงานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการ Mixed-use งานสนามบิน งานโรงพยาบาล และงานโรงงาน เป็นต้น จากปัจจุบันมีปริมาณงานในมือ (backlog) อยู่ในระดับสูงถึง 1,300 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงโมเดลธุรกิจ Total Lighting Solution Provider การทำธุรกิจแสงสว่างแบบครบวงจร ควบคู่ innovation สร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพื่อตอบรับเทรนด์ธุรกิจสินค้าที่เชื่อมต่อถึงกันได้หรือ IoT ในยุคเทคโนโลยี 5G
“มองว่าปี 66 ความต้องการสินค้า IoT SMART POLES , Horticulture Lighting และ L&E virtual studio ที่ตอบโจทย์ยุค metaverse คาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ L&E Beyond เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการงานโปรดักชั่น (Production Solution Provider) แบบครบวงจร ให้บริการทั้งระบบแสง เสียง ภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัยกลุ่ม Entertainment Tech แก่ธุรกิจด้านบันเทิง อาทิ งานละคร งานถ่ายรายการโทรทัศน์ งานถ่ายทำ Music Video งานคอนเสิร์ต งานนิทรรศการแบบครบวงจร เสริมภาพลักษณ์ให้ L&E เป็นมากกว่าผู้นำธุรกิจ Lighting Solution” นายอนันต์ กล่าว
L&E จะเดินหน้าบุกตลาดทั้งงานโปรดักชั่นบันเทิงและอีเวนต์ทั้งแบบ On-Ground และแบบ Online อาทิ Music Video, คอนเสิร์ต รายการ งานประกาศรางวัล ภาพยนตร์ ซีรีส์ งานเปิดตัวสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ สินค้า IoT SMART POLES, Horticulture Lighting และ L&E Virtual Studio ที่ตอบโจทย์ยุค Metaverse คาดการณ์จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทฯ ได้รับงานโครงการ One Bangkok ซึ่งคาดว่าจะเป็นโอกาสในการยกมาตรฐานของบริษัทให้เติบโตมากขึ้น
นายอนันต์ กล่าวว่า ปี 66 นับเป็นปีที่น่ายินดี ในโอกาสที่ L&E ดำเนินธุรกิจครบรอบ 30 ปี โดยเริ่มต้นมาจาก Lighting Solution Provider และได้มีการขยายโชว์รูมและพัฒนาต่างๆ มากมาย ล่าสุดได้บวกความเป็นเทคโนโลยี โดยการใช้ IoT Smart Lighting Electronic และ Electric Device และ connected กับดีไวซ์ต่างๆ เราเป็น Tech Company และได้มีการแตกไลน์ไปยัง Entertainment Tech สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้มีการพัฒนามาต่อเนื่อง โดยเน้นสินค้าเราต้องมีคุณภาพ แข่งขันได้ ตรงต่อเวลา L&E เป็นองค์กรที่เน้นคุณค่ามาก่อนเสมอ Value First
นอกจากนี้ L&E ได้มีการศึกษาธุรกิจใหม่ ๆ คือ Biological Lighting ตอนนี้มีการสร้างเรือนเพาะชำใหม่ขึ้นมาที่ นพวงศ์ เรียกว่า Green House โดยใช้ระบบอัตโนมัติควบคุมด้วย IoT ทั้งหมด เรามีสตอรี่ ตอกย้ำ เราเป็นมากกว่าแสงสว่าง L&E ไม่ได้ทำแค่แสงสว่างเพียงอย่างเดียว รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า เซอร์คาเดี้ยน Circadiun Lighting หรือ Human Centric Light ซึ่งตอนนี้มีความต้องการมากขึ้น ซึ่ง L&E มีผลิตภัณฑ์พร้อมเสิร์ฟในขณะนี้ คือ การทำไฟที่เปลี่ยนสี ระบบไฟควบคุมด้วยระบบสมาร์ท สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีในบ้าน อาคารพาณิชย์ ในพิพิธภัณฑ์ และในทางการแพทย์ ใช้ในการรักษาคนไข้ หลอกว่าเป็นกลางวัน หรือกลางคืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 66)
Tags: L&E, หุ้นไทย, อนันต์ กิตติวิทยากุล, ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์