นายมอร์ริส จาง ผู้ก่อตั้งบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) เปิดเผยว่า แม้เขาจะสนับสนุนความพยายามของสหรัฐในการชะลอความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน แต่การแยกห่วงโซ่อุปทานของโลกออกเป็นสองทางและกระแสโลกาภิวัตน์ย้อนกลับจะยิ่งเพิ่มราคาและลดความแพร่หลายของชิป อันเป็นสินค้าที่ขับเคลื่อนโลกสมัยใหม่
นายมอร์ริสกล่าวในงานที่จัดขึ้นโดยนิตยสารคอมมอนเวลธ์ของไต้หวันว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ในภาคชิป โลกาภิวัตน์ได้ตายไปแล้ว การค้าเสรียังไม่ตายเสียทีเดียว แต่มันกำลังอยู่ในอันตราย”
“เมื่อต้นทุนสูงขึ้น ความแพร่หลายของชิปก็จะหยุดลงหรือไม่ก็ชะลอตัวอย่างมาก” นายมอร์ริสในวัย 91 ปี กล่าว “เราจะเข้าสู่เกมที่ต่างไปจากเดิม”
รายงานระบุว่า ความพยายามในการย้ายฐานการผลิตห่วงโซ่อุปทานกลับประเทศ (onshoring) และย้ายไปยังกลุ่มประเทศที่เป็นมิตรของสหรัฐ (friendshoring) เพื่อเพิ่มการผลิตชิปในประเทศหรือในชาติพันธมิตร ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับไต้หวัน
ทั้งนี้ นายจางเสริมว่า “การย้ายไปยังประเทศพันธมิตรของสหรัฐนั้นไม่รวมถึงไต้หวัน อันที่จริง รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐพูดย้ำเสมอว่า ไต้หวันเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก สหรัฐไม่สามารถพึ่งพาไต้หวันในเรื่องชิปได้” พร้อมระบุว่า “แน่นอนว่าตอนนี้ ผมคิดว่าปัญหาของไต้หวันคือภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 66)
Tags: TSMC, ชิป, เซมิคอนดักเตอร์