นายพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยสาเหตุที่ราคาบิทคอยน์ดีดตัวกว่า 18% เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค.66 และยังปรับตัวพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในระบบการเงินปกติ
มุมมองแรกคือ “การล้มลงของธนาคารในสหรัฐอเมริกา” เป็นการตอกย้ำคุณสมบัติที่บิทคอยน์ (Bitcoin) พยายามบอกในรอบหลายปี และเมื่อพิจารณาถึงคุณลักษณะของบิทคอยน์ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินใด ๆ บิทคอยน์ไม่สามารถถูกอายัดได้เหมือนเงินในธนาคาร ส่งผลให้ในขณะที่ตลาดทุนหลักอยู่ในช่วงขาลง แต่ราคาบิทคอยน์กลับพุ่งสวนกระแสขึ้นมาได้
และในอีกมุมหนึ่ง “บิทคอยน์” ยังคงถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง การล้มตัวลงของธนาคารจะทำให้เกิดผลกระทบในเชิงกว้างทันที รวมถึงการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเหตุทำให้เงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
“ไม่ว่าเราจะมองมุมมองแบบไหนก็เป็นผลดีต่อบิทคอยน์ทั้งนั้น และหากผลกระทบจากการล้มลงของธนาคารนี้จบลงไว เราอาจจะเห็นบิทคอยน์มี Upside ได้อีก 5-15% แต่หากเหตุการณ์ยืดยาวออกไปแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ อาจกลายเป็นกระแสที่คนพูดถึง ทำให้เกิด Uptrend ในระยะสั้นไปจนถึงระยะกลางได้” นายพีรพัฒน์ กล่าว
หากดูจากข้อมูลที่ตรวจสอบบนบล็อกเชน (On Chain) จะพบว่ามีเงินไหลเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ แล้วกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเงินในตลาดมีการไหลสู่สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความคล่องตัว เปลี่ยนมือได้ง่าย ไม่ถูกควบคุมด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 66)
Tags: Cryptocurrency, คริปโตมายด์, คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่, คริปโทเคอร์เรนซี, พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว, สินทรัพย์ดิจิทัล