นายราจีฟ จันทราเซคาร์ รัฐมนตรีกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ของอินเดียเปิดเผยว่า เขาจะหารือกับสตาร์ทอัพในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินผลกระทบจากการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อสตาร์ทอัพในอินเดีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงปกป้องการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งปิด SVB ในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. หลังประชาชนแห่ถอนเงินจำนวนมากจาก SVB ซึ่งมีสินทรัพย์ทั้งหมด 2.09 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2565 โดยลูกค้าของ SVB เร่งถอนเงินถึง 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออกจากธนาคารในวันเดียว จนส่งผลให้ธนาคารล้มละลาย
นายจันทราเซคาร์ระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “สตาร์ทอัพมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจใหม่ของอินเดีย ผมจะพบกับสตาร์ทอัพอินเดียในสัปดาห์นี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อพวกเขาและวิธีที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือในช่วงวิกฤต”
อินเดียเป็นหนึ่งในตลาดสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีอื่น ๆ
ทั้งนี้ การล่มสลายของ SVB ซึ่งถือเป็นกรณีธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อปี 2551 ทำให้ตลาดโลกปั่นป่วน กระทบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนสร้างความวิตกกังวลต่อผู้ประกอบการอินเดีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 66)
Tags: SVB, ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์, ราจีฟ จันทราเซคาร์, สตาร์ทอัพ