กระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่าจะไม่พยุงกิจการซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งถูกสั่งปิดกิจการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในระบบธนาคาร
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้ที่ธนาคาร SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ สามารถเข้าถึงเงินฝากของตนได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.เป็นต้นไป แต่กลุ่มผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้บางส่วนของ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ จะไม่ได้รับการคุ้มครอง
นอกจากนี้ ประชาชนผู้เสียภาษีจะไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงการคุ้มครองเงินฝาก
กระทรวงปกป้องการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศปิดกิจการของ SVB ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้ให้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี และจากนั้นได้ประกาศปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันความเสี่ยงในระบบธนาคาร
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่า เฟดจะจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB
ภายใต้โครงการดังกล่าวนั้น เฟดจะเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์, สถาบันรับฝากเงิน, เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ โดยสถาบันการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการดังกล่าวนั้น จะถูกขอให้ยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 66)
Tags: SVB, กระทรวงการคลังสหรัฐ, ซิกเนเจอร์ แบงก์, ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์