สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ธนาคารในเครือเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) จากรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศในวันพุธที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพิ่ม 2.25 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาใช้ในการพยุงงบดุล
ในช่วงเวลาเพียง 48 ชั่วโมงได้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นในกลุ่มธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital : VC) ที่ SVB เป็นผู้ให้บริการ จนนำไปสู่จุดจบของธนาคารที่ดำเนินกิจการมานานถึง 40 ปีแห่งนี้
หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบสหรัฐสั่งปิด SVB ในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. พร้อมยึดเงินฝากทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2551 และเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดอันดับสองของหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐ
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นผลกระทบระลอกล่าสุดจากการดำเนินการสกัดเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเข้มงวดที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และอาจสร้างแรงกระเพื่อมแบบเป็นวงกว้าง โดยขณะนี้เกิดความวิตกกังวลว่า บรรดาสตาร์ตอัปทั้งหลายอาจไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนนักลงทุนอาจเผชิญความยากลำบากในการระดมทุน และภาคส่วนที่ประสบปัญหาอยู่แล้วอาจถูกซ้ำเติมมากยิ่งขึ้น
สาเหตุที่ทำให้ SVB ล่มสลายนั้นเกิดจากผลกระทบของการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยลูกค้าที่เป็นสตาร์ตอัปของ SVB ต้องทำการถอนเงินฝาก เพื่อรักษาสภาพคล่องให้กับบริษัท ท่ามกลางภาวะแวดล้อมที่ไม่เป็นใจต่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และการระดมทุนจากภาคเอกชน เป็นผลให้ SVB ขาดเงินทุนจนต้องขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ธนาคารถือครองเอาไว้ในราคาขาดทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า SVB ได้ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ราคาขาดทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นสูงมาก โดยตามหลักการแล้วราคาพันธบัตรรัฐบาลกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะสวนทางกัน
แหล่งข่าวระบุว่า SVB ต้องการเงินทุนแบบกะทันหันในช่วงที่ซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ผู้ปล่อยสินเชื่อรายสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีเพิ่งประกาศเมื่อวันพุธที่ 8 มี.ค.ว่า บริษัทจะยุติการดำเนินงานและขายสินทรัพย์ของธนาคารซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank) เพื่อชำระหนี้ ซึ่งจุดชนวนให้เกิดกระแสแห่ถอนเงินฝากอีกระลอก เนื่องจากธุรกิจเงินร่วมลงทุนสั่งการให้บริษัทที่ดูแลพอร์ตลงทุนของตนเองโยกย้ายเงินทุน โดยกระแสแห่ถอนเงินที่ SVB อาจสร้างความเสี่ยงใหญ่หลวงต่อสตาร์ตอัปที่ไม่สามารถถอนเงินฝากของตนเองได้
ด้านลูกค้าของ SVB ระบุว่า นายเกร็ก เบกเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SVB ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าได้ หลังจากที่เขาออกมาเรียกร้องให้ลูกค้าอยู่ในความสงบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 66)
Tags: SVB, ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์