ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้เสนองบประมาณด้านกลาโหมเมื่อวันพฤหัสบดี (9 มี.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.86 แสนล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.3% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญกับจีนในฐานะที่เป็นความท้าทายอันดับหนึ่ง และพยายามเพิ่มมาตรการป้องกันในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดนวางแผนที่จะใช้จ่ายรวม 6.88 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% ในงบประมาณของรัฐบาลกลางทั้งหมดสำหรับปีงบประมาณที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 แต่ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าจะลดการขาดดุลงบประมาณลงประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีผ่านการเรียกเก็บภาษีมากขึ้นจากผู้มีรายได้สูงและบริษัทต่าง ๆ
ปธน.ไบเดนระบุว่า การเพิ่มงบดังกล่าวจะนำไปสู่การส่งเสริมการป้องปรามแบบบูรณาการในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและที่อื่น ๆ พร้อมกับพันธมิตรและหุ้นส่วน
รายงานระบุว่า งบประมาณที่เสนอนั้นรวมถึงเงินทุนกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีเสถียรภาพ เชื่อมโยงกัน และเพื่อเสริมสร้างการเป็นพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาค
ทั้งนี้ จากงบด้านกลาโหมทั้งหมดนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐเพียงแห่งเดียวต้องการงบ 8.42 แสนล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.2% จากระดับที่อนุมัติใช้ในปี 2566 โดยมีการจัดสรรงบประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับโครงการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของสหรัฐในภูมิภาค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 66)
Tags: กระทรวงกลาโหมสหรัฐ, งบประมาณ, จีน, สหรัฐ, โจ ไบเดน