ติ๊กต๊อก (Tiktok) แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของจีน ประกาศมาตรการใหม่ที่มุ่งเสริมสร้างการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้งานในยุโรปด้วยการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต (security gateway) ซึ่งจะกำหนดการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ติ๊กต๊อกในยุโรปและการถ่ายโอนข้อมูลนอกยุโรป
ติ๊กต๊อกระบุว่า การเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ไม่เพียงต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้อง แต่ยังต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบเพิ่มเติมก่อนด้วย โดยกระบวนการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัทรักษาความปลอดภัยในยุโรป ซึ่งจัดเป็นบุคคลที่สาม
นอกจากนั้น ติ๊กต๊อกจะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ เพื่อรับประกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้งาน อาทิ การปกปิดอัตลักษณ์ (pseudonymisation) ของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันความสามารถระบุตัวบุคคลหากไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม
รายงานระบุว่า ติ๊กต๊อกจะเริ่มต้นรวบรวมข้อมูลผู้ใช้งานในท้องถิ่นยุโรปตั้งแต่ปีนี้ พร้อมกับจัดตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่อีกสองแห่งในไอร์แลนด์และนอร์เวย์หลังจากมีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในยุโรปแห่งแรกของติ๊กต๊อกในกรุงดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ เมื่อปีก่อน โดยศูนย์ข้อมูลทั้งสามแห่งนี้จะมีการลงทุนรายปีรวม 1.2 พันล้านยูโร เมื่อเปิดดำเนินงาน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันติ๊กต๊อกมีผู้ใช้งานทั่วยุโรปกว่า 150 ล้านราย ซึ่งติ๊กต๊อกระบุว่าการมีผู้ใช้งานจำนวนมากเช่นนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันมีนัยสำคัญ โดยสิ่งสำคัญคือการสร้างความไว้วางใจด้วยการรับรองความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของชุมชนและข้อมูล
ทั้งนี้ ติ๊กต๊อกจะดำเนินมาตรการชุดใหม่หรือ “โปรเจกต์ โคลเวอร์” (Project Clover) ตลอดปีนี้จนถึงปี 2567
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 66)
Tags: TikTok, ข้อมูลผู้ใช้งาน, ติ๊กต๊อก