คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวในงานสัมมนา “THE NEXT THAILAND FUTURE : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา คนไทยเสียโอกาส ทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงปีละ 2-3% ต่ำสุดในอาเซียน ดังนั้นจำเป็นต้องรื้อยุทธศาสตร์ชาติใหม่ เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ดำเนินนโยบายปราบทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังเหมือนอย่างเกาหลีใต้ แก้หนี้ของประเทศด้วยการสร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาท เช่น ต่อยอดธุรกิจสุขภาพ ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหาร เดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ การสร้างเครื่องมือใหม่ที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การผลักดันโครงการคลองไทย การผลักดันข้อตกลงความร่วมมือจีน-อินเดีย-ไทย
ส่วนการอำนวยความสะดวกในการประกอบอาชีพของประชาชนนั้น จะเสนอกฎหมายที่ยกเลิกระเบียบที่มีอยู่ 1,400 ฉบับให้สามารถดำเนินการได้ในจุดเดียว, การยกเลิกจัดเก็บภาษีจากเอสเอ็มอี, การกำหนดค่าไฟฟ้าไม่เกินหน่วยละ 3.50 บาท เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ และลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคมีนโยบายที่จะผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร จะไม่สร้างอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจากการกู้เงิน
ส่วนนโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท/วันนั้น คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะค่าครองชีพปรับขึ้นมาแล้ว ดังนั้นทุกฝ่ายต้องดำเนินการร่วมกัน ทั้งการเพิ่มผลผลิต และการลดต้นทุนการผลิต
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวว่า ระบบเศรษฐกิจฐานรากต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ดูตัวเลข GDP เพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้เกิดการกระจายรายได้ ไม่กระจุกตัวจนเกิดความเหลื่อมล้ำ ส่วนค่าแรงขั้นต่ำวันละ 450 บาท ต้องมีการปรับขึ้นทุกปีตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น การสร้างความเสมอภาคเพื่อให้ผู้ประกอบการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน การพัฒนาคุณภาพของระบบบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน การเปิดเสรีด้านพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย การกำหนดคาร์บอนเครดิตภาคบังคับ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เครื่องจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 ตัว ได้แก่ ท่องเที่ยว ส่งออก การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งต้องยกระดับเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา
ส่วนปัญหาเร่งด่วน ได้แก่ แก้หนี้ เติมทุน เพิ่มทักษะ สร้างโอกาส เพิ่มวงเงินบัตรคนจรเป็น 700 บาท สำหรับเรื่องพลังงงานนั้นจะต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างราคาน้ำมัน หาจุดสมดุลของภาษีที่เหมาะสมและกองทุนน้ำมันฯ ลดการนำเข้าน้ำมัน ส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 66)
Tags: THE NEXT THAILAND FUTURE, การเมือง, กิตติรัตน์ ณ ระนอง, พรรคก้าวไกล, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, ศิริกัญญา ตันสกุล, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, เลือกตั้ง