SAPPE ดีดแรง 5.48% รับเป้าใหม่ทะลุ 60 บาทโบรกมองอนาคตสดใสหลังยอดขายปีก่อน All Time High

SAPPE ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 5.48% หรือบวก 3.00 บาท มาที่ 57.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 36.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.011 น. โดยราคาเปิดที่ 56.00 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 58.50 บาท ราคาต่ำสุด 56.00 บาท

บล.เอบีไอ ไทย ออนไลน์ ระบุในบทวิเคราะห์ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ในปี 66 จากเดิม 706 ล้านบาท สู่ระดับ 767 ล้านบาท และปี 67 ที่ระดับ 888 ล้านบาท เป็นการเติบโตกว่า 16.2% และ 15.7% ตามลำดับ พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 66 ไปสู่ 60.50 บาท จาก 46.50 บาท ด้วยวิธี PE Multiple จาก EPS ปี 66 ที่ 2.51 และ PE เฉลี่ยย้อนหลัง ปี 59-65 และ+1.5SD ที่ระดับ 24.15 เท่า

แนวโน้มยอดขาย SAPPE ในปี 66 ยังคงเติบโตต่อเนื่องในต่างประเทศ ในขณะที่ในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว และแผนการลงทุน ช่วยเพิ่ม Margin โดยการเติบโตต่างประเทศยังสดใส ปัจจัยหนุนจากจำนวนประเทศที่มี Brand Engagement (บริษัทนิยามประเทศเหล่านี้ว่า Gems) เพิ่มจำนวนขึ้นจากเดิม 4 ประเทศ (เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และฝรั่งเศส) เป็น 6 ประเทศ (โดยผู้บริหารยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอีก 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้น)

กลยุทธ์ในประเทศเหล่านี้จะยังคงเน้นไปที่การเสริ่มสร้างภาพลักษณ์ของ Brand ให้แข็งแกร่งและหาทางเพิ่ม Product Champion ให้มากขึ้น บวกกับการตลาดโดย Global Influencer อย่างการเป็น Partner กับวง BTS ของเกาหลีและเป็นผู้สนับสนุนซีรีส์เกาหลีอย่าง Crash Course in Romance ที่ฉายใน Netflix รวมถึง Life Style Marketing ผ่าน Platform Metaverse อย่าง Zepeto

ขณะที่ยอดขายในประเทศ เราคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว หลังหดตัวในปีที่ผ่านมาจากการแข่งขันที่รุนแรงและมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่น้อย โดยปัจจัยที่หนุนการฟื้นตัวในประเทศ คือ แผนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 20 SKU (เทียบกับปีที่แล้วเพียง 4SKU) และ แผนการเสริมความแข็งแกร่งของ Core Brand นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิต 30% ในปี 66 และการลงทุนต่างๆ ที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่ม Margin แต่ต้นทุนวัตถุดิบจะเป็นปัจจัยกดดันและลดผลบวก

ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์เช้านี้ว่า มุมมอง Positive หุ้น SAPPE จาก Analyst Meeting โดยบริษัทฯยังวางเป้าปี 66 เติบโตเชิงรุกที่ 25% ทั้งจากต่างประเทศยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการสร้างแบรนด์ และการขยายจุดจำหน่ายในหลายประเทศเด่น (ฝรั่งเศส, เกาหลี, อังกฤษ, อินเดีย) รวมถึง ในประเทศวางเป้ากลับมาเติบโต 25% จากแผนออกผลิตภัณฑ์อีกราว 20-30 SKUs หนุนยอดขายเติบโตจากฐานต่ำปีก่อน

ด้านต้นทุนวัตถุดิบเห็นแนวโน้มต่ำลง รวมถึงการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ คาดส่งผลให้ GPM ปรับขึ้นได้ รวมถึงคงแผนเพิ่ม Capacity ปีละ 30% ปี 66-68 โดยระยะสั้นคาดกำไร Q1/66 ยังมีโมเมนตัมดี บวก y-y, q-q จากการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นปี และมีอัตราการผลิตสูงกว่าปีก่อน สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการเร่งตัวในช่วง High season Q1-Q3/66 ลุ้นทำ New high ต่อเนื่อง คงแนะ “ซื้อ” ที่ราคเป้าหมายปี 66 ที่ 64 บาท อิง PE26x ด้านราคาหุ้นยังซื้อขาย PER22 เท่าต่ำกว่ากลุ่ม ซึ่งสูง 25-30 เท่า

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top