นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) คาดว่าทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้ว่าจะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้ออย่างไร ซึ่งจะเป็นจุดหักเหสำคัญของตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดทุนไทย เนื่องจากการสู้ศึกกับเงินเฟ้อของเฟดอาจจะยืดเยื้อมากกว่าที่ทุกคนคิด
เฟดพูดเสมอว่าการดำเนินการในปีนี้ขึ้นกับข้อมูลที่เข้ามาที่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอีกนานแค่ไหน ถ้าขึ้นเยอะ ภาวะถดถอยก็จะเป็นไปตามคาด ความผันผวนในตลาดทุนจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเฟดมีความไม่แน่นอนในการทำนโยบาย ผลกระทบต่อตลาดทุนจะเกิดขึ้น และเราจำเป็นต้องปรับตัว
ระยะเวลา 1-3 เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงตัดสิน โดยในวันที่ 22 มี.ค.จะเป็นวันตัดสินที่ตลาดจะรับข่าวการประชุมเฟดรอบที่ 1 และกลางปีจะมีการประชุมในเดือน มิ.ย.จะเห็นชัดเจนว่าเงินเฟ้อจะสูงยาวนานกว่าที่คิดหรือไม่ อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะขึ้นไป 5% ปลาย ๆ พอหรือยัง เพราะขณะนี้ตลาดมองไปที่ 5-6% แล้ว และจะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อคืนกระโดดแข็งค่าขึ้นไปทันทีที่ประธานเฟดส่งสัญญาณออกมา ถ้าเฟดไม่จบรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะทำให้ค่าเงินโลกผันผวนไปจนถึงอย่างน้อยกลางปีที่จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น
ในขณะที่ค่าเงินบาทนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะการอ่อนค่าของเงินบาทมาจากค่าเงินดอลลาร์ปั่นป่วน แต่ก็เห็นว่าควรดูแลให้เงินบาทอ่อนค่าไปตามโลก เพื่อให้ผู้ส่งออกได้เงินเข้ามามากขึ้นน่าจะดีกับระบบ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยผ่านช่วงนี้ไปได้
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐคงต้องมองกันทีละไตรมาส โดยเฉพาะเดือน มิ.ย.66 จะเป็นจุดหักเหสำคัญของปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้ออาจจะดื้อ เพราะขึ้นมาสูงจากราคาน้ำมันและปรับลงไปจากน้ำมัน แต่พอลงมาเหลือระดับ 6% การจะกดจาก 4% มาเป็น 2% ตามเป้าหมายของเฟดน่าจะใช้เวลาสักพัก กลางปีนี้ยังไม่น่าจะเป็นไปได้ ดีที่สุดน่าจะเห็นแค่ 4% และถ้าตลาดแรงงานยังเป็นแบบนี้คนตกงานต่ำสุดในรอบ 20 ปี เฟดก็คงต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไป แต่อาจจะไม่หนักเหมือนกับในปีก่อนที่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยถึงครั้งละ 0.75% ดังนั้นปีนี้คงยังมีความผันผวนแต่หวังว่ากลางปีทุกอย่างจะชัดขึ้น เป็นจุดเช็คพอยท์ที่สำคัญว่าตลาดจะผันผวนแค่ไหน แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วความผันผวนน่าจะน้อยลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 66)
Tags: FETCO, ดอกเบี้ย, ธนาคารกลางสหรัฐ, เงินเฟ้อ, เฟด