กทม. เข้มมาตรการลดผลกระทบปชช. หลัง PM2.5 สูงต่อเนื่อง

นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงนามในหนังสือถึงหน่วยงานในสังกัดกทม. กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อควบคุมฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัด ด้วยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม. เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ส่งกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

ดังนั้น เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดดำเนินมาตรการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม. ปี 66 ดังนี้

1. เข้มงวดตรวจวัด ตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภท ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด

2. ประสานสถานีตำรวจท้องที่อำนวยการจราจร และกวดขันห้ามจอดรถในถนนสายหลักสายรองตลอดเวลา

3. ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) ใช้รถเท่าที่จำเป็น ไม่ขับ…ช่วยดับเครื่อง

4. ประชาสัมพันธ์ประชาชนให้บำรุงรักษาเครื่องยนต์ และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว

5. ควบคุมสถานประกอบกิจการในพื้นที่ ไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

6. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ทำ Big Cleaning บริเวณสถานที่ก่อสร้างและแพลนท์ปูน รวมถึงงดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทุกประเภท

7. เข้มงดตรวจตราควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท

8. ทุกสำนักงานเขตทำ Big Cleaning บริเวณที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เขต และเพิ่มความถี่ในการล้างและดูดฝุ่นถนน ฉีดล้างต้นไม้ ใบไม้ และทำความสะอาดป้ายรถเมล์อย่างต่อเนื่อง

9. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้พร้อมแนะนำวิธีป้องกันสุขภาพอนามัยจากฝุ่นละออง PM 2.5 ให้กับประชาชน และแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ AIRBKK หากประชาชนเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue

10. ออกหน่วยบริการสาธารณสุขและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ คลินิกมลพิษทางอากาศดูแลสุขภาพประชาชน

11. ดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด และลดผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนในโรงเรียน

สำหรับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุมาจากฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้ารับการปรึกษาได้ที่คลินิกมลพิษทางอากาศ ณ โรงพยาบาลสังกัดกทม. 6 แห่ง ประกอบด้วย รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ในเวลา 08.00-15.00 น. หรือขอรับคำปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ กทม. โทร 1646 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top