นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่า GMM MUSIC ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 25% แตะ 3,800 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้รวม 3,043 ล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม และสร้างโอกาสขยายตัวธุรกิจใหม่ เพื่อตอกย้ำการเป็น MUSIC INFRASTRUCTURE อันดับ 1 พร้อมเน้น 5 Core Focus เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่
1. Entertainment Data Intelligence
– คือการลงทุนแพลตฟอร์มด้าน Big Data เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ GMM MUSIC ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่าย Showbiz หรือ ฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
– GMM MUSIC ได้ลงทุนในการใช้ Machine Learning และ AI เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของแฟนเพลง ศิลปิน แบรนด์สินค้า ตลอดจนสื่อทุกแขนงที่มีความเกี่ยวพัน นำไปสู่ความแม่นยำอันสูงสุดในการเลือกใช้ศิลปิน การหาความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ กับแบรนด์สินค้า หรือสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลายตลอดจนนำไปสู่เรื่องของการทำ Data Prediction ที่สามารถมองเห็นความต้องการและปริมาณการซื้อบัตรใน Showbiz สาขาต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำก่อนการขาย
– ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ที่ GMM MUSIC จะเดินหน้าขยาย Music Data สู่ Personalization Commerce ในเร็ววันนี้ และจะเติบโตสู่การเป็น Entertainment Big Data ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด
2. No.1 Music Performance in Thai Market
– สร้างสรรค์และจัดวางแบรนด์ศิลปินให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์
– ขยายกำลังการผลิตเพลงเพิ่มเป็น 500 เพลง 32 อัลบั้ม 160 ซิงเกิล 5,000 เพลย์ลิสต์ ต่อปี
– รักษามาตรฐานการเป็นค่ายเพลงที่มียอดการสตรีมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งจากเพลงใหม่และเพลงเก่า
3. Rebuild The New Generation
– วางเป้าหมายในการสร้างศิลปินใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งศิลปินร็อก (New Rock Idol), ศิลปินลูกทุ่ง (New Country Idol) และศิลปินป็อปไอดอล (New Pop Idol) พร้อมเดบิวต์สู่ตลาดมากกว่า 15-20 ศิลปินใหม่
– สร้างเครือข่าย Recruitment ในการเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ผ่านความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา สถาบันสอน ร้อง-เต้น โมเดลลิ่ง มิวสิคคอมมูนิตี้ โปรดิวเซอร์ และผู้จัดในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะมีการคัดเลือกเข้า-ออกตลอดอย่างต่อเนื่องทั้งปีด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นของ GMM ACADEMY
4. Digital Crossover
– สร้างรายได้ให้เติบโตสูงสุดในกลุ่ม Digital Music ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Digital Performance
– นำความเชี่ยวชาญต่อยอดในการสร้าง Performance ที่สูงขึ้นในทุกสื่อโซเชียลมีเดียของค่ายและศิลปิน
– เชื่อมโยงโอกาสระหว่าง Music Marketing, Music Optimization และ Music Playlist ให้เกิดการเติบโตทั้งด้านรายได้ และพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภค
5. No.1 Showbiz in Thailand
– ยึด 7 จุด ยุทธศาสตร์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้าน Music Festival – Indoor Concert ที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด มีศิลปินมากที่สุด และมียอดผู้ชมมากที่สุด
– ขยายเข้าสู่โอกาสใหม่ ในการสอดแทรกเข้าสู่งานเทศกาลประจำจังหวัด งานฮาโลวีน งาน LGBTQ+ งานเทศกาลดนตรีระดับสากล คอนเสิร์ต และงานแฟนมีตติ้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 66)
Tags: GMM MUSIC, GRAMMY, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ธุรกิจดนตรี, ภาวิต จิตรกร