น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ตั้งวงเงินสิทธิให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนมี.ค. 66 ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
– วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 66)
– วงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน, ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน และค่าโดยสารรถขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)/รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (เป็นวงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
– เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับการประปานครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (เป็นวงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
สำหรับเดือนก.พ. 66 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1-28 ก.พ. 66 ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน (ล้านบาท)
1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,512.52
1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 28.55
1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 21.70
1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 6.69
1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 14.80
รวมจำนวนเงิน (1) 3,584.26
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) จำนวนเงิน (ล้านบาท)
2.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 172.10
2.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17.81
2.3 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 215.56
รวมจำนวนเงิน (2) 405.46
รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) 3,989.72
สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถใช้บัตรฯ ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 66 โดยกระทรวงการคลังได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 แล้ว ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิ จำนวน 14.59 ล้านคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 66)
Tags: บัตรคนจน, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ