นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ และอาจจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี นโยบายการเงินของธนาคารกลางอินโดนีเซียยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
นายวาร์จิโยยืนยันกับสื่อมวลชนในวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วทั้งสิ้น 2.25% ในช่วงเดือนส.ค. 2565 จนถึงเดือนม.ค. 2566 ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากเพียงพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลางในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นอกจากนี้ นายวาร์จิโยย้ำว่า เจตนารมณ์ของธนาคารกลางอินโดนีเซียคือการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินรูเปียห์ให้มีเสถียรภาพ แม้เชื่อว่าค่าเงินรูเปียห์จะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากอัตราดอกเบี้ยของเฟดพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว
ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.พ. คณะกรรมการธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วันไว้ที่ 5.75% เนื่องจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและค่าเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าขึ้นช่วยให้ธนาคารกลางสามารถระงับวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินได้
ขณะที่เฟดมีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 66)
Tags: ค่าเงินรูเปียห์, ธนาคารกลางสหรัฐ, นโยบายการเงิน, อัตราดอกเบี้ย, อินโดนีเซีย, เฟด, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย