เมตา-สแนปจ่อทวงส่วนแบ่งตลาดโซเชียลคืน หลังสหรัฐผลักดันกฎหมายแบนติ๊กต๊อก

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์, บริษัทสแนป และบริษัทสื่อดิจิทัลรายอื่น ๆ ของสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลสหรัฐกำลังผลักดันร่างกฎหมายแบนการใช้งานติ๊กต๊อก (TikTok) แอปโซเชียลมีเดียของบริษัทไบต์แดนซ์จากจีน เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง

รายงานล่าสุดระบุว่า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 24 ต่อ 16 เพื่อให้อำนาจประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการแบนติ๊กต๊อก โดยที่ผ่านมานั้น แอปพลิเคชันติ๊กต๊อกกวาดส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ลอรา มาร์ติน นักวิเคราะห์จากบริษัทนีดแฮม (Needham) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า “หากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ก็จะเป็นประโยชน์กับบรรดาบริษัทโซเชียลมีเดียที่เคยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับติ๊กต๊อก โดยคาดว่าแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กของบริษัทเมตา และยูทูบของบริษัทกูเกิล จะได้ประโยชน์มากที่สุดหากมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้”

ในปี 2564 ติ๊กต๊อกมีผู้ใช้งานรายเดือนสูงถึง 1 พันล้านคน ขณะที่ผลสำรวจโดย Pew Research Center เมื่อเดือนส.ค. 2565 พบว่า 67% ของวัยรุ่นในสหรัฐใช้ติ๊กต๊อก โดยในจำนวนนี้ มี 16% ที่ใช้ต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งวัน ส่วนผลสำรวจโดย Insider Intelligence พบว่า ติ๊กต๊อกครองส่วนแบ่งตลาดโฆษณาดิจิทัลทั่วโลกในสัดส่วน 2.3% เป็นรองแค่ส่วนแบ่งตลาดของกูเกิล (รวมยูทูบ), เฟซบุ๊ก (รวมอินสตาแกรม), อะเมซอน และอาลีบาบาเท่านั้น

อย่างไรก็ดี คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของติ๊กต๊อกมีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากสหรัฐและอีกหลายประเทศรวมตัวกันแบนติ๊กต๊อก โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานการบริหารและงบประมาณ (OMB) ของทำเนียบขาวออกคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางดำเนินการลบแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกออกจากอุปกรณ์ทุกชนิดของรัฐบาลภายใน 30 วัน หลังสหรัฐยกระดับการตรวจสอบติ๊กต๊อกของบริษัทไบต์แดนซ์จากจีนจากข้อวิตกด้านความมั่นคง

ด้านรัฐสภายุโรปสั่งให้ลบติ๊กต๊อกออกจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และคณะมนตรียุโรป (European Council) ซึ่งตอกย้ำถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ติ๊กต๊อก

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top