นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดตลาดกาวอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะกลับดีขึ้นในปี 66 โดยซีลิคยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของรายได้ จากทั้งธุรกิจกาวอุตสาหกรรม ธุรกิจสติ๊กเกอร์ และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์จากโครงการลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของรายได้อย่างชัดเจนในปี 2566 รวมถึงขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น และขยายไปยังตลาดต่างประเทศที่เศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีและมีกำลังซื้อสูง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนด้วยการร่วมทุน หรือการซื้อกิจการ เพื่อที่จะเป็นการผลักดันการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ก่อนการลงทุนในแต่ละโครงการจะผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ และเป็นไปตามหลักการและขั้นตอนของนโยบายการลงทุน เพื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงผลประโยชน์สูงสุดที่บริษัทและผู้ถือหุ้นพึงได้รับ โดยเน้นที่ธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจหลักทั้งสองของบริษัท และธุรกิจด้านการแพทย์ หรือด้านเทคโนโลยีเป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 65 มีรายได้รวม 1,624.70 ล้านบาท เติบโต 10.8% จากปี 64 จากการเติบโตของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมและธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว และการรวมผลการดำเนินงานของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเข้ามาในเดือนกันยายน 65 ส่งผลให้ทั้งปี บริษัทฯ มีกำไรมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 39.70 ล้านบาท
ไตรมาส 4/65 บริษัทมีรายได้รวม 440.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากไตรมาสก่อน และ 17.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการรวมผลการดำเนินงานของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเข้ามาด้วยทั้งไตรมาส Iรวมถึงมีการเตรียมความพร้อมในการเริ่มต้นผลิตสินค้าของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ยังไม่รับรู้รายได้ โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 1/66
ทั้งนี้ ซีลิคมีรายได้จากการขายและบริการจากการดำเนินงานธุรกิจสามประเภท คือ 1.ธุรกิจกาวอุตสาหกรรม 2.ธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว และ 3.ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนการขายและบริการของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมอยู่ที่ 42% ธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัวอยู่ที่ 55% และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอยู่ที่ 4% ในปี 65 โดยในปี 66 สัดส่วนของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อบริษัทรวมผลการดำเนินงานทั้งปีงบประมาณ รวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจากบริษัทย่อยของกลุ่มนี้จะเริ่มรับรู้ ภายในในไตรมาส 1/66
“ซีลิค ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะมุ่งขยายฐานธุรกิจไปในภาคธุรกิจใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “นวัตกรรมการยึดติด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” จึงเป็นที่มาของการเข้าไปลงทุนในธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยซื้อสินทรัพย์ภายใต้ตราสินค้า นีโอพลาสท์และ นีโอบัน และการเข้าถือหุ้นในบริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด และเริ่มรวมผลกำไรดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจนี้ในเดือนกันยายน 2565 เป็นต้นมา โดยในปีก่อนเราได้ปูความพร้อมในส่วนของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จนทำให้สามารถรับรู้รายได้จาก Segment นี้ได้เต็มส่วนในปีที่ผ่านมา ซึ่งสุดท้ายนี้ก็จะส่งผลต่อการเติบโตของกลุ่มซีลิคเช่นกัน” นางสาวยุวดี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 66)
Tags: Selic, ซีลิค คอร์พ, ยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์, หุ้นไทย