นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียจะไม่กลับเข้าร่วมสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ “New START” กับสหรัฐ จนกว่าสหรัฐจะยอมรับฟังรัสเซีย
นายเพสคอฟให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อิสเวสเทีย (Izvestia) ว่า “ทัศนคติของบรรดาชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซียนั้น ถูกชี้นำโดยสหรัฐ และจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง และความมั่นคงของประเทศใดประเทศหนึ่งไม่อาจรับประกันได้โดยค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงของอีกประเทศหนึ่ง”
นอกจากนี้ นายเพสคอฟยังกล่าวว่า “การที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระดมกำลังอาวุธให้แก่ยูเครนนั้น ถือเป็นการกระทำร่วมกันเป็นกลุ่ม เราจะไม่นับว่านาโตเป็นคู่แข่งอีกต่อไป แต่จะถือว่าเป็นศัตรู”
นายเพสคอฟกล่าวถึงแผนการสันติภาพของจีนที่เสนอตัวเป็นคนกลางในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่า “ข้อเสนอแนะของจีนควรได้รับการรับฟัง และทุกความพยายามเพื่อการบรรลุข้อตกลงสันติภาพล้วนเป็นสิ่งที่น่ารับฟัง แต่แน่นอนว่า รายละเอียดก็เป็นสิ่งสำคัญ” นายเพสคอฟกล่าว
เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้แถลงนโยบายประจำปี (State of the Nation Address) ต่อสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากสภาสหพันธ์หรือวุฒิสภา และสภาดูมาหรือสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งผู้นำกองทัพ และผู้นำภาคธุรกิจ โดยในโอกาสนี้ ปธน.ปูตินได้ประกาศระงับความร่วมมือของรัสเซียในข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ “New START” กับทางสหรัฐ
รายงานระบุว่า สหรัฐและรัสเซียลงนามในข้อตกลง “New START” ในปี 2553 ซึ่งจะจำกัดให้แต่ละประเทศมีหัวรบนิวเคลียร์ไม่เกิน 1,550 หัวรบ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดอายุในปี 2569
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66)
Tags: นิวเคลียร์, รัสเซีย, สนธิสัญญา, สหรัฐ, อาวุธนิวเคลียร์