นายตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 66 บริษัทยังคงตั้งเป้าขับเคลื่อนการเติบโตก้าวกระโดด ปักธงรายได้และกำไรเดินหน้าสร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นหุ้น “Growth Stock” สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบัน IP แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์รักษาโรค, 2.ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและนวัตกรรมความงาม, 3.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง, 4.ผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์, 5.ธุรกิจร้านขายยา และ 6.ธุรกิจโรงพยาบาล
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 65 รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่อง โดยบริษัทมีกำไรสุทธิทะยานแตะ 131 ล้านบาท เติบโตเกือบ 19% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้จากการขายและบริการเติบโตเกือบ 68% แตะ 1,523 ล้านบาท ตามการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก
โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์รักษาโรคที่เติบโตโดดเด่น 74.5% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 380 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากทั้งโรงงานอินเตอร์ ฟาร์ มา อยุธยา และโรงงานโมเดิรน์ ฟาร์มา อาทิ ยารักษาโรคเบาหวาน, ยากลุ่มลดไขมัน และยาบรรเทาอาการแพ้ เป็นต้น, กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและนวัตกรรมความงามเติบโตแตะ 355 ล้านบาท หลักๆมาจากยอดขายกลุ่มโปรไบโอติกที่ยังคงได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค อาทิ Probac 7, Probac Ultra Collagen, TS6 Probiotics, Probac 10 Plus, Probac Mood, PreBO เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง เติบโตเกือบ 22% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 290 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์สินค้า MARIA และ CHOO CHOO รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลสุขภาพสุนัขและแมว ภายใต้แบรนด์ Dr.Choice และ PetSelect เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับรู้รายได้กว่า 400 ล้านบาท จากธุรกิจร้านขายยา ภายใต้แบรนด์ “Lab Pharmacy” ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วรวม 21 สาขา และรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงพยาบาล จากการเข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 50% ของ “โรงพยาบาลนครพัฒน์” ขนาด 59 เตียง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาเติมพอร์ตช่วงโค้งสุดท้ายของปีอีกเกือบ 30 ล้านบาท
สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ราว 457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามยอดขายที่เติบโตขึ้น ซึ่งมาจากค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบไอที, ระบบบัญชี ERP, ระบบ CRM, ค่าโฆษณา, การเพิ่มจำนวนพนักงานขายในตลาดร้านขายยา, เภสัชกรประจำร้านขายยา, การทำตลาดออนไลน์, การทำโปรโมชั่นร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรต่างๆ รวมไปถึงค่าเสื่อมจากการปรับปรุงโรงงาน และการซื้อเครื่องจักรสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) อยู่ที่ 40.6% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) อยู่ที่ระดับ 8.6%
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 65 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น พร้อมออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทฯครั้งที่ 2 (IP-W2) จำนวนไม่เกิน 93,130,131 หน่วย ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่ง 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น อายุ 2 ปี ราคาใช้สิทธิ 20 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66)
Tags: IP, ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์, นักลงทุน, ผู้ถือหุ้น, วอร์แรนต์, อินเตอร์ ฟาร์มา