
ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลกอดคอร่วงยกแผง เมื่อเวลา 11.15% นำโดย M-CHAI ลบ 7.76% หรือลดลง 28.00 บาท มาที่ 333.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.21 ล้านบาท
EKH ลบ 7.65% หรือลดลง 0.70 บาท มาที่ 8.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 148.25 ล้านบาท
BCH ลบ 2.90% หรือลดลง 0.60 บาท มาที่ 20.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 173.19 ล้านบาท
BH ลบ 1.87% หรือลดลง 4.00 บาท มาที่ 210.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 172.87 ล้านบาท
PRINC ลบ 1.72% หรือลดลง 0.10 บาท มาที่ 5.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.30 ล้านบาท
CMR ลบ 1.48% หรือลดลง 0.04 บาท มาที่ 2.66 บาท มูลค่าซื้อขาย 0.97 ล้านบาท
CHG ลบ 1.06% หรือลดลง 0.04 บาท มาที่ 3.74 บาท มูลค่าซื้อขาย 57.45 ล้านบาท
LPH ลบ 0.91% หรือลดลง 0.05 บาท มาที่ 5.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.14 ล้านบาท
BDMS ลบ 0.88% หรือลดลง 0.25 บาท มาที่ 28.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 340.52 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับตัวลงมา คาดว่าเป็นการขายทำกำไรจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นค่อนข้าง Outperform ประกอบกับ บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) และบมจ.โรงพยาบาลมหาชัย (M-CHAI) ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาดมาก ทำให้กดดันหุ้นเกือบทั้งกลุ่ม และบมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) คาดผลงานน่าจะออกมาอ่อนกว่าคาดด้วย
อย่างไรก็ตาม มองพื้นฐานกลุ่มโรงพยาบาลปีนี้ยังแข็งแกร่ง เป็นจังหวะช่วงพักฐาน หรือย่อลงแล้วเข้าซื้อได้
ด้านบล.กรุงศรี แนะนำ “ขาย” EKH หลังประกาศกำไรจากการดำเนินงาน 223 ล้านบาท ลดลง 35% yoy ในปี 65 กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4/65 เท่ากับ 7 ล้านบาท ลดลงจาก 101 ล้านบาทในไตรมาส 4/64 และ 76 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 เนื่องจากรายได้ลดลง 12% ทั้ง yoy และ qoq คาดสาเหตุจากรายได้โควิดลดลงและผลกระทบของฤดูกาล และกำไรขั้นต้นลดลงจาก 48.4% ในไตรมาส 4/64 และ 44.5% ในไตรมาส 3/65 เป็น 29.5%
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและการตลาดเพิ่มขึ้น 49% yoy และ 58% qoq เป็น 76 ล้านบาท หากรวมกำไร 410 ล้านบาท จากการปรับมูลค่ายุติธรรมของ KLINIQ (EKH ถือหุ้น) กำไรสุทธิจะโต 60% เป็น 551 ล้านบาทในปี 65 และเติบโต 213% yoy และ 340% qoq เป็น 335 ล้านบาทในไตรมาส 4/65
EKH ประกาศจ่ายเงินปันผลเงินสด 0.32 บาท/หุ้น ผลตอบแทนปันผล 3.5% และ หุ้นปันผลในอัตรา 40 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล ปรับอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) เป็น 1:1.066 ราคาแปลงสภาพ 5.91 บาท/หุ้น จำนวน warrant คงเหลือ 139.5 ล้านหุ้น XD วันที่ 3 พ.ค. หุ้นปันผลอาจมีผลบวกทางจิตวิทยา แต่ปัจจัยพื้นฐานและ valuation ไม่เปลี่ยนแปลง
ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย” เราแนะนำให้ขายทำกำไรเนื่องจากกำไรธุรกิจหลักต่ำกว่าคาด และราคาหุ้นปรับขึ้น 22% ในหกเดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่จะฟื้นตัวแล้ว ณ ราคาล่าสุด EKH ให้ผลตอบแทนรวมไม่น่าสนใจที่ 10%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 66)
Tags: หุ้นโรงพยาบาล, หุ้นไทย