นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเปิดเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมว่า ขณะนี้ กทม. ได้ปรับเรื่องค่าจ้างเดินเรือให้เหมาะสมขึ้น คาดว่าจะลดจากเดือนละ 2.5 ล้านบาท เป็น 1.7 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดประมูลไปแล้ว แต่ไม่มีผู้รับจ้าง จึงทำให้สุดท้ายแล้ว บมจ. กรุงเทพธนาคม (KT) อาจจะเข้าไปเดินเรือเอง
“ต้องนำเรือไปซ่อมแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันมีความเสียหายอยู่ ตอนนี้ซ่อมไปแล้ว 3 ลำ น่าจะต้องซ่อมให้เสร็จทั้งหมด แล้วจึงทดสอบเดินเรือได้ เรายินดีรับฟังคำติชมทุกอย่างเพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินการให้ดีขึ้น ซึ่งการเดินเรือก็ต้องพิจารณาปริมาณผู้ใช้ด้วย” ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ
นายชัชชาติ กล่าวว่า การเดินเรือแบบโครงข่าย อาจจะดำเนินการได้ยาก เนื่องจากลักษณะของลำคลองเปลี่ยนหน้าที่จากเส้นทางสัญจร มาเป็นคลองระบายน้ำเป็นหลัก มีเพียงบางเส้นทางที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรได้ คลองเชื่อมโยงกันจริง แต่มีประตูน้ำกั้น จึงยากที่จะต่อเชื่อมการเดินเรือในแต่ละคลอง แต่หากเป็นการเชื่อมโยงเรือกับรางน่าจะทำได้ง่ายกว่า
“การเชื่อมโยงเรือต่อเรือ ไม่ง่าย ถ้าทำได้ ก็น่าจะเป็นคลองแสนแสบกับคลองลาดพร้าว จุดอื่นไม่น่าง่าย การเชื่อมโยงเรือกับรางน่าจะง่ายกว่า อย่างเรือคลองผดุงกรุงเกษมไม่ได้เร็วมาก ถ้าเคยนั่งจะทราบว่าระยะทางไม่ไกล แต่ใช้เวลานาน ปัจจุบันมีคนใช้อยู่วันละประมาณ 400 คน เส้นทางเดินเรือที่มีคนใช้บริการส่วนใหญ่ จะมีโรงเรียนอยู่ปลายทาง คงพยายามพัฒนาเส้นที่เดินเรืออยู่ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น อาจเป็น feeder บางเส้นทางจะมีการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มเติม มีด้านการตลาดเพิ่มขึ้น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของผู้ใช้ว่ามีปริมาณมากน้อยแค่ไหน” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ส่วนสถานการณ์คลองเปรมประชากรนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาหลักคือมีชุมชนบุกรุกจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถทำเขื่อนริมคลอง และไม่สามารถขุดลอกคลองได้ แม้ว่าจะได้ผู้รับจ้างแล้ว บริเวณคลองเปรมประชากรจึงมีความตื้นเขินหลายจุด หากไปขุดลอก จะทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองไหลลงไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องคุยกับมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66)
Tags: กทม., กรุงเทพมหานคร, คลองผดุงกรุงเกษม, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, เรือไฟฟ้า